หัทยา' ไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อยที่จะจ้าง หญิงสาวหน้าหวานอย่าง 'เดือนนภา' ให้มาเป็นแบบวาดภาพของตนเองทางเดือนนภาที่ร้อนเงินเองก็ใช้เวลาในการตัดสินใจไม่นานเหมือนกันว่าต้องการที่จะรับงานนี้แต่....เรื่องมันไม่ได้จบแค่ การจ้างงานไง.....ก็นะ...บรรยากาศของสตูดิโอที่อยู่ในสวนสวยแบบนี้...แล้วจะทำให้หญิงสาวทั้งคู่อดใจเอาไว่ได้อย่างไรไหว
“แกไม่สนใจจริงๆ นะหรือ…. งานนี้ได้ค่าจ้างเยอะมากเลยนะ”
สาวอวบคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ก่อนที่หญิงสาวคนเดิมจะเอ่ยออกมาต่อ
“นี่ถ้าฉันหุ่นดีๆ หน้าตาสวยๆ แบบแก ฉันไปทำเองนานแล้ว”
เออนะ เพื่อนของเธอนี่ก็แปลก ทั้งๆ ที่ตนเองมีรูปเป็นทรัพย์อยู่อย่างนี้ แทนที่จะเอามันมาหาประโยชน์ให้ได้เงินได้ทองเข้ามาจุนเจือครอบครัว ตัวของเดือนนภาก็เกิดอาการลังเลขึ้นมาเสียเฉยๆ อย่างนั้น
“แต่... เขาบอกให้เราไปเป็นนางแบบวาดภาพนะ….”
เพราะมันเป็นอย่างนี้นี่แหละ เลยทำให้ตัวของเธอเองนะอดที่จะคิดดีไม่ได้
นางแบบวาดภาพอย่างนั้นหรอ…. มันจำเป็นที่จะต้องถอดเสื้อผ้าให้เห็นรูปร่างเรือนกายของตัวเองหรือเปล่า…. ตัวเองนั้นไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย…. คนหน้าหวานคิดในใจ ให้เพื่อนสาวร่างอวบถึงกับต้องถอนหายใจยาวออกมา
“ก็ถ้าแกอยากรู้ ทำไมแกไม่ไปขอรายละเอียดกับเขาก่อนล่ะ เขาก็ให้ไลน์ติดต่อไว้ไม่ใช่หรือยังไง ดูท่าว่างานนี้เขาจะรีบหานางแบบน่าดูเลยเหมือนกันนะ”
สาวอวบเอ่ยออกมาต่อ
“เอ่อ….แต่…..”
“แกจำเป็นต้องใช้เงินไม่ใช่หรือไง…. น้องของแกต้องจ่ายค่าเทอมวันไหนนะ... สัปดาห์หน้านี้หรือเปล่า”
แม้ว่าหน้าตาของเดือนนภาเองนั้นจะจัดได้ว่าเป็นผู้หญิงประเภทที่สวยมาก…. ใบหน้าเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มที่มีเครื่องหน้ารับกันหมดไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดวงตากลมโตน่ามอง จมูกโด่งรั้น แล้วไหนจะริมฝีปากอวบอิ่มสีระเรื่อ ทั้งหมดทั้งมวลที่เธอกล่าวมานี้ มันล้วนแต่ทำให้ไม่ว่าใครก็ใครเมื่อได้มองเห็นหน้าเดือนนภาแล้ว ก็อดที่จะต้องหันกลับมามองซ้ำไม่ได้
แล้วรูปร่างของอีกฝ่ายรึก็ออกจะดี แม้ว่าเดือนนภาเองนั้นจะไม่ได้เป็นเจ้าของร่างกายที่มีความสูงมากนัก แต่ทรวดทรงองค์เอวของหญิงสาวคนนี้ก็มีส่วนเว้าส่วนโค้งของความเป็นหญิงปรากฏให้เห็นได้อย่างเด่นชัด และที่สำคัญที่สุดนะ เรื่องนี้เธอต้องขอเมาท์ หน้าอกของเพื่อนเธอน่ะมันไม่ได้เล็กไปตามร่างกายของเดือนนภาเลยนะจะบอกให้ มันมีขนาดที่ใหญ่เกินกายของหญิงสาวหน้าหวานคนนี้ไปอยู่มาก และนี่แหละคือจุดขายของเดือนนภาเลยก็ว่าได้
“เอ่อ...นั่นก็ใช่”
“แล้วแกจะรออะไรอยู่ล่ะ…”
จะรอให้ครอบครัวอดตายกันก่อนหรือยังไง... เธออยากที่จะพูดประโยคนี้ออกไปใจจะขาด แต่ก็กลัวว่ามันจะเป็นการทำร้ายจิตใจเพื่อนสาวของตนเองมากเกินไป
ครอบครัวของเดือนนภาจัดได้ว่าค่อนข้างที่จะขัดสน ด้วยความที่ว่าบิดาทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ตอนที่เพื่อนเธอยังเล็กๆ ทำให้คนเป็นแม่ต้องหาเลี้ยงลูกสาว 1 คนและลูกชายอีก 1 คนอย่างยากลำบาก นั่นจึงไม่แปลกเลยว่าทำไมเพื่อนของเธอคนนี้ถึงต้องทำงานมากมาย เพื่อที่จะหาเงินมาส่งเสียตัวเองเรียนและจุนเจือครอบครัวช่วยแม่ของตนเองด้วย
หลังจากที่เรียนมหาวิทยาลัยจบ…. ก็กลับกลายเป็นว่าตัวของเดือนนภาเองนั้นได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเต็มตัวเป็นที่เรียบร้อย... หน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้านจึงตกมาเป็นของหญิงสาวหน้าหวานคนนี้แทนที่คนเป็นแม่... และนั่นก็ยิ่งทำให้เดือนนภาเองต้องหางานพิเศษทำนอกเหนือจากการเป็นสาวออฟฟิศไปด้วยอีกทางหนึ่ง เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายนั้นเอง
“ได้….เดี๋ยวฉันจะติดต่อเขาไปเอง”
ในที่สุดหลังจากที่เดือนภาใช้ความคิดของตนเองอยู่ครู่ใหญ่ คนหน้าหวานก็ตอบประโยคนี้ออกมา... และนั่นก็ทำให้เพื่อนสาวร่างอวบถึงกับต้องฉีกยิ้มกว้างออกมาในหน้าเลยทีเดียว
เธอมั่นใจเลยละว่าเพื่อนสาวของเธอต้องได้รับการคัดเลือกเป็นนางแบบให้กับศิลปินคนนี้อย่างแน่นอน... ทำไมนะหรือ…. เธอว่าดีนะ เพื่อนของเธอน่ะสวยมากอย่างไรล่ะ!!!!