เธออ้วนและมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยสิวสีแดง ทุกคนหัวเราะเยาะใบหน้าน่าเกลียดของเธอ แม้แต่เธอก็ยังเชื่อว่าไม่มีใครต้องการเธอ เธอแอบชอบชายหนุ่มรูปงามชื่อเฮย์เดน เธอไม่กล้าที่จะสารภาพความรู้สึกของเธอกับเขา เธอโพสต์ภาพร่างกายที่เซ็กซี่และผิวเรียบเนียนของเธอทางออนไลน์ และชนะใจแฟนๆ นับล้านที่เห็นเธอเป็นเทพธิดา ซึ่งเป็นที่เดียวที่เธอสามารถลืมความว่างเปล่าของเธอในความเป็นจริง ผู้คนต่างตกหลุมรักกับหน้าอกที่เหมือนครีมมูสและแตกแยกของเธอ แฟนตัวยงคนหนึ่งของเธอคือเฮย์เดน ซึ่งไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ในที่สุดเฮย์เดนก็ชวนเธอออกไปในคืนหนึ่ง เธอตกลงที่จะพบกับเฮย์เดน มีเงื่อนไขเดียว ไฟไม่ติดครับ แต่เสียงคร่ำครวญของเธอหักหลังเธอ และเฮย์เดนก็เปิดไฟ...
ณ ออฟฟิศแห่งหนึ่ง เสียงกร่นด่าของพนักงานเอ่ยอย่างหยาบคายดังขึ้น "นี่! ยัยอ้วน! รีบไปเอากาแฟมาซิ! จำไว้นะ พวกฉันสั่งอเมริกาโน่เย็นสองแก้วกับลาเต้เย็นสองแก้ว ห้ามทำหกนะ ไม่งั้นได้เจอกำปั้นแน่!" นั่นคือเสียงของเพื่อนร่วมงานของฉัน...ฟิลิป
คิดว่าคนอย่างฉันจะกล้าสู้กลับเหรอ?
ไม่ ฉันคงไม่ทำมันหรอก ฉันชินเสียแล้วแหละ
ตั้งแต่ไหนแต่ไรก็มีแต่คนเอาเปรียบและถูกรังแกมาโดยตลอดอยู่แล้ว ตั้งแต่ฉันเป็นเด็ก ไอ้การกลั่นแกล้งแบบนี้ฉันเจอมาตลอดทั้งชีวิตของฉัน
ฉัน ในตอนนี้ที่อายุยี่สิบสามปีที่เพิ่งจะเข้าสู่ช่วงวัยทำงานซึ่งเพิ่งจะเรียบจบไปเมื่อสองปีก่อน
ฉันยังจำวันที่ตัวเองเรียนจบมหาวิทยาลัยราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน วันที่แสงอาทิตย์เจิดจ้าราบกับตามืดบอดพร้อมกับลมแรงจนตัวเกือบปลิวในวันนั้นก็ไม่สามารถหยุดฉันไม่ให้มีความสุขได้ ใช่! เป็นวันที่ฉันมีความสุขมากที่สุดในชีวิตเพราะในที่สุดฉันจะหลุดพ้นจากนรกที่นี่ซักทีแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฉันจะไม่ต้องโดนรังแกทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ต้องโดนขังอยู่ในห้องน้ำและถูกทุบตีอีกต่อไป
หึ แต่ฉันคิดผิด ตอนนี้แม้จะทำงานแล้วแต่ฉันยังทนทุกข์ทรมานจากการโดนกลั่นแกล้งและถูกโขกสับเหมือนที่มหาลัย ทั้งหมดก็คงเป็นน่าตาอันอัปลักษณ์ของฉันที่ทุกคนต่างรังเกียจ
ใช่ หมายความตามนั้นเลย ฉันเป็นผู้หญิงที่หน้าตาขี้ริ้วขึ้เหร่
ฉันมีรูปร่างอ้วนท้วมเหมือนบอลลูน ตาของฉันโต สีฟ้าอ่อนราวกับน้ำแข็งที่ตกผลึก ฉันดูไม่ค่อยเหมือนพ่อแม่ตัวเองเท่าไหร่ ดวงตาของพวกเขาเป็นสีเขียวเช่นเดียวกับน้องชายของฉัน ฉันคิดว่านี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ชอบฉัน
แต่ฉันรักจมูกของฉัน ริมฝีปากสีชมพูและผิวสีขาวเหมือนหิมะของฉัน ถ้าเพียงแต่ใบหน้าของฉันไม่เต็มไปด้วยสิวบนใบหน้าตัวเองแล้วละก็ ฉันคงจะเป็นผู้หญิงที่สวยมาก!
พวกสิวเหล่านี้ทำให้หน้าฉันเละ! นี่แหละคือตัวทำลายชีวิตฉันให้ต้องมาจบด้วยการกลั่นแกล้งแบบนี้!
ใบหน้าของฉันที่ดูเหมือนกับพื้นหลุมบนดวงจันทร์ ทุกคนที่เห็นฉันอดไม่ได้ที่จะทำท่าทางรังเกียจ
ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าถ้าฉันไม่มีสิวพวกนี้เหมือนตอนเป็นเด็ก สิ่งต่างๆ ก็คงจะไม่เป็นแบบนี้เมื่อฉันอายุสิบสี่
เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นในปีนั้น สิวนับไม่ถ้วนเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยงามของฉัน ราวกับเป็นผดผื่น มันทำลายความงามของฉัน สาวๆที่เคยอิจฉาต่างเริ่มล้อเลียนฉัน พวกเขารุมกลั่นแกล้งและรังแกฉัน เด็กผู้ชายที่เคยบอกว่าชอบฉันเริ่มหลีกเลี่ยงและทำหน้ารังเกียจเมื่อเห็นฉัน
การกระทำของพวกเขาทำร้ายฉันอย่างที่สุด และฉันก็ค่อยๆ หมดความมั่นใจไป นับแต่นั้นเป็นต้นมาทุกวันนี้ฉันเดินก้มหน้าลงและพยายามปิดบังใบหน้าอันแสนน่าเกลียดของตัวเองที่เพิ่มมากขึ้นด้วยผมหยิกสีน้ำตาลยาวเป็นลอนแต่ก็ไม่เป็นผลเลย
มีผู้หญิงร้ายกาจมากมายที่พร้อมจะวิ่งเข้ามาหาฉันและตั้งใจแกล้งฉันโดยยกผมฉันขึ้น พวกเขาจะตามฉันไปรอบๆ ราวกับฝูงไฮยีน่าที่รอตะครุบเหยื่ออันโอชะอย่างฉันและทำให้ฉันอับอายทั่วทั้งมหาลัย
เมื่อเวลาผ่านไป เกือบทุกคนในมหาลัยรู้ถึงการมีอยู่ของฉัน พวกเขาให้ชื่อเล่นที่แสนน่าเกลียดกับฉัน เมื่อพวกนั้นเห็นฉันก็จะหัวเราะและพูดว่า "นี่ยัยหลุมดวงจันทร์! ดูหน้าแกสิ หลุมลึกยิ่งกว่าหลุมบนดวงจันทร์จริงๆซะอีก! ฮ่าฮ่าฮ่า!"
เสียงหัวเราะเยาะสะท้อนดังก้องเข้ามาในหูของฉัน ทั้งหมดที่ฉันต้องการจะทำคือวิ่งหนี! แต่พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยฉันไว้ตามลำพัง พวกเขาจะตามแกล้งฉัน กระชากหัวแล้วตบฉันแรงๆ แล้วถ่มน้ำลายใส่ฉัน
อ้อ ฉันลืมบอกไปว่าตอนแรกฉันพยายามขัดขืนแล้วแต่ทุกครั้งที่ฉันทำ การตบตีจะยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก ฉันเรียนรู้ที่จะอยู่เงียบๆ เพราะการทำแบบนั้นหมายความว่าพวกนั้นอาจจะเบื่อและทิ้งฉันไปในไม่ช้า
จากนั้นฉันก็ค้นพบว่าการกินสามารถบรรเทาความเจ็บปวดของฉันได้ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ฉันดูน่าเกลียดมากขึ้นเท่านั้น เอวบางของฉันก็พองขึ้นเหมือนลูกบอล ก้นของฉันก็ใหญ่ขึ้นและหน้าที่เริ่มบวม...
อะไรจะเลวร้ายไปกว่านี้ละ?
แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับความทรงจำอันโหดร้าย ฉันต้องไปซื้อกาแฟแล้ว
ฉันก้าวท้าวเข้าไปในลิฟต์ด้วยต้นขาที่เบียดจากความอวบอ้วนและมองใบหน้าของตัวเองในกระจก
โอเค ฉันต้องยอมรับจริงๆว่าฉันอ้วนขึ้นมาก
คิดซิ เมธ่า อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยังไม่เจ็บตัวเท่าตอนนั้นใช่ไหมละ? ฉันพยายามคิดบวกกับตัวเอง
ฉันพยายามยิ้มให้กว้างที่สุดเพื่อให้ดูมีชีวิตชีวาแทนที่จะเป็นเหมือนศพเดินได้
เห็นได้ชัดว่าเจ้าของร้านกาแฟรู้จักฉันดีในขณะที่เขายิ้มอย่างเป็นมิตรทันทีที่เห็นฉัน ฉันรู้ว่าเขาทำแบบนี้กับลูกค้าทุกคน แต่ฉันชอบมองรอยยิ้มของเขาเพราะมันเป็นหนึ่งในการแสดงความใจดีของเขาที่ฉันสัมผัสได้จริงๆ
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ?” เจ้าของร้านถามด้วยรอยยิ้ม
"อเมริกาโน่เย็นสองแก้วกับลาเต้เย็นสามแก้วค่ะ" ฉันพูดในขณะหยิบกระเป๋าเงินออกมา
การจ่ายกาแฟห้าแก้วไม่ได้ถูกเลย แต่ฉันรู้ว่าเพื่อนร่วมงานไม่เคยคืนเงินฉันเลย พวกเขาเคยชินกับการเอาเปรียบฉันมาโดยตลอด
ฉันอยากที่จะโยนกาแฟใส่หน้าพวกเขาทุกคนถ้าทำได้ แต่ฉันทำไม่ได้เพราะฉันต้องการงานนี้ รายได้ที่ดีขนาดนี้จะไปหาจากที่ไหนล่ะ มันดีพอที่จะสามารถอยู่ในเมืองนี้ได้สบายๆเลย