About
Table of Contents
Comments

  ชีวิตรักของสาวหมวยยิปโซเริ่มต้นตั้งแต่ยังไม่ทันได้เข้ามหาวิทยาลัยเลย ด้วยความที่เธอใฝ่ฝันจะเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มาตั้งแต่ม.ต้นทำให้เธอลงคอร์สติวความถนัดสถาปัตย์ฯ เรียนการใช้เส้นมาอย่างหนักหน่วงจนสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ก่อนเพื่อนๆ ที่รอสอบแอดมิชชัน

  อ้อ เหมือนจะข้ามอะไรไป ก็ที่ว่าชีวิตรักเริ่มตั้งแต่ยังไม่ทันเข้ามหา’ลัยก็คือเธอปิ๊งหนุ่มที่เรียนพิเศษด้วยกันเข้าน่ะสิ แต่ด้วยความเป็นเด็กสาวตามแบบฉบับไท๊ยไทย เธอได้แต่แอบมองและไม่เคยทักทายหนุ่มตี๋คนนั้นเลย รู้แต่ว่าเขาชื่อ ‘ออกศึก’ และลาจากกันหลังจากจบคอร์สเรียนพิเศษไปทั้งแบบไม่เคยคุยกันเลยสักครั้งเดียว

  แต่ฟ้าคงสั่งมา เพราะดันเป็นใจให้เธอได้เจอกับเขาอีกในวันรับน้องใหม่ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ระหว่างที่เธอกำลังวุ่นวายเริ่มต้นชีวิตเฟรชชี่ ทำความรู้จักหมู่เพื่อนๆ ที่น่าจะต้องเรียนด้วยกันไปอีกห้าปีอยู่แถวหน้าคณะนั้น...

  “แก ผู้ชายคนนั้นหล่อว่ะ” เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสิบนาทีสะกิดยิปโซยิกๆ พร้อมทั้งซุบซิบเสียงเบา หล่อนเรียนจบมาจากโรงเรียนเอกชนหญิงล้วนชื่อดังแถวสีลม มีชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้คือเม แต่เธอจงใจให้เพื่อนๆ เรียกว่าเมอาร์

  ยิปโซหันมองตามมือขาวของเพื่อนใหม่ วินาทีที่เห็นหน้าด้านข้างของผู้ชายคนนั้น เธอก็จำสายตาตี่ๆ ของเขาได้ทันที ดวงตารีและเรียวยาวที่สะกดให้เธอคอยแอบมองในคลาสติวอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ไม่คิดว่าจะได้เจอแล้ว แต่กลับคิดผิด ภาพของออกศึกที่อยู่ในชุดที่พวกรุ่นพี่นัดหมายน้องใหม่คณะสถาปัตย์ฯ ให้ใส่มาเหมือนๆ กันเข้ามาอยู่ในสายตาเธออีกครั้งจนได้ และมันไม่แค่นั้นนี่สิ...

  “โทษนะครับ ห้องน้ำไปทางไหนหรอครับ”

  อยากจะกรี๊ดให้ดังลั่นมหา’ลัยที่เพิ่งได้รายงานตัวเข้ายังไม่ทันถึงเดือนดี ออกศึกเดินเข้ามาทักเธอ กรี๊ดๆๆๆ

  “เอ่อ” ขณะที่หัวใจเธอเต้นตึกตัก อยากถามเขาว่ารักไม่รักช่วยบอกหน่อย เมอาร์ก็เสนอหน้าชิงตอบคำถามแทนไปแล้วเรียบร้อย

  “ไม่รู้อะ แต่ขอเบอร์ได้ไหม ไว้รู้แล้วจะโทรไปบอก”

  ยัยนี่อ่อยผู้เก่งจังวะ ไหนบอกเรียนหญิงล้วนมาไง!

  เขาไม่ตอบ ปรายตามองเมอาร์ด้วยสายตานิ่งๆ ที่ยิปโซก็ไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ก่อนสุดท้ายจะถอนหายใจออกมาแล้วเดินจากไป ทิ้งพวกเธอไว้อยู่ที่เดิมโดยไม่พูดอะไรตอบเลยสักคำ

  “อ้าว ไปซะละ” เมอาร์บ่น

  ก็เพราะเธอนั่นแหละ ยัยเม ยัยบ้า!

  ชักไม่อยากเป็นเพื่อนด้วยแล้ว ฮือ

  “เม๊! หยุดความคิดเดี๋ยวนี้เลยนะ คนนี้ฉันจองนานแล้ว!” ยิปโซดึงเมอาร์เข้าใกล้และซุบซิบเสียงเบาอย่างใส่อารมณ์ แม้จะระวังไม่อยากให้เขารู้ แต่ก็อินเต็มที่เพราะผู้ชายคนนี้เธอมองมาตลอด และยังเป็นรักแรก รวมถึงรักแรกพบของเธอตั้งแต่เธอเริ่มเรียนที่สถาบันติวเลยด้วยซ้ำ

  เธอชอบเขามาตลอดปีกว่าเลยนะ!

  “แกไปจองตอนไหน ก็เพิ่งเจอหน้า”

  “ฉันเคยเห็นออกศึกในคลาสเรียน”

  “เขาชื่อออกศึกเหรอ ชื่อแปลกชะมัด”

  “ใช่ แกห้ามยุ่ง เข้าใจไหม”

  “เออ ก็ได้ๆ เรียนด้วยกันแล้วทำไมเหมือนไม่รู้จักกันเลยอะ” เมอาร์ยอมรับปาก แต่ก็ยังตั้งข้อสงสัยอื่นๆ

  “ก็...”

  “หืม?”

  “ก็ฉันได้แต่แอบมองอะ ไม่เคยคุย”

  ตอบแล้วก็ได้แต่ทำหน้าสลด ยิปโซผิดเองแหละ ผิดที่ไม่เคยกล้าทักเขาเลย

  “โอ้โห สมัยนี้แล้วนะเว้ยแก ชอบแล้วทำไมไม่คุย”

  “คุยยังไงอ่า”

  “ก็จีบเลยไง”

  “แต่” ทำไม่เป็นนี่นา ฮือ

  “นี่มันยุคไหนแล้ว มัวแต่เต่ออะไร เดี๋ยวก็โดนหมาคาบไปแดกหรอก” เมอาร์พูดพร้อมทั้งกวาดตามองไปที่เพื่อนร่วมคณะของพวกเธอ สาวๆ ทั้งแบบแท้และไม่แท้ต่างหันมองออกศึกอย่างสนใจ ขณะที่เขาเดินดุ่มๆ ไปตามทางเพราะน่าจะกำลังหาป้ายบอกทางไปห้องน้ำอยู่

  เวรกรรมแล้ว เธอดูเหมือนจะมีคู่แข่งอยู่เต็มคณะเลย ฮืออ

  อุตส่าห์สอบติดมหา’ลัยที่ฝันแล้ว คิดว่าเข้ามาคงไม่ต้องแข่งอะไรกับใครอีก ไม่ใช่เลย ดูคณะคนน้อยๆ แต่คู่แข่งหัวใจเพียบเพราะผู้ดันโดดเด่น หน้าตาดีกว่าชาวบ้าน จะร้อง!

  “แกช่วยฉันด้วยดิเม ฉันชอบเขามานานกว่าพวกนั้นอีกนะ ฉันเจอเขาก่อน!” ยิปโซได้แต่วิงวอนเพื่อนใหม่ เห็นมันแสดงความเชี่ยวชาญตอนที่เขามาทักแล้วก็คิดว่ามันอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง

  “ถึงมือพี่เมอาร์แล้ว สบายใจได้ไอ้น้อง” เมอาร์ยักคิ้วส่งมาให้ หล่อนใช้นิ้วโป้งปัดจมูกตัวเองแสดงความห้าวหาญ

  พอถึงเวลานัดหมาย พวกรุ่นพี่ที่จัดงานรับน้องก็เรียกรวม คณะเราคนไม่เยอะนัก แค่เกือบๆ สองร้อยคน ซึ่งถ้าเทียบจำนวนคนกับคณะใหญ่ๆ อย่างวิศวะฯ ก็คือถือว่าคนเราน้อยมาก ดูเป็นคณะเล็กจ้อยประหนึ่งมดตัวน้อยไปเลย แถมคณะยังมาตั้งในซอกหลืบที่ส่วนด้านหลังมหา’ลัยเลยทำให้แทบจะไม่สามารถเจอคนนอกคณะแบบบังเอิญได้เลย ซึ่งมันจะส่งผลให้รู้สึกแค่ตอนช่วงปีหนึ่งที่ยังต้องไปเรียนที่ตึกเรียนรวมอยู่บ้างเท่านั้นแหละ เพราะหลังจากไม่มีเรียนวิชากลางแล้วก็จะไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนี้อีกเลย ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะได้บังเอิญเจอคนนอกคณะมากขึ้นหรอกนะ แต่เป็นเพราะจะมีชีวิตอยู่แค่ในคณะกับหอพักตัวเองเท่านั้นจนลืมเรื่องนี้ไปมากกว่า นั่นเป็นสิ่งที่รุ่นพี่บอกเล่า ยิปโซคิดภาพตาม แต่ก็นึกไม่ค่อยออกเลยไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่

  นอกจากเรื่องนี้แล้วก็มีเพียงแค่คำเตือนว่าอยู่คณะ’ถาปัตย์ ความจนก็จะสิงสถิตกับท่านตลอดการเรียนห้าปีเพราะค่าอุปกรณ์ทั้งหลายแหล่ ซึ่งจะตรงกันข้ามกับเวลานอนที่เด็กคณะนี้จะต้องใช้ความพยายามหาให้ได้ แล้วจากนั้นรุ่นพี่ก็ชื่นชมและรวมถึงกล่าวยินดีต้อนรับที่พวกเราสอบติดเข้ามาเป็นน้องพวกพี่เขาได้

  ก็เป็นอันจบเรื่องหลักๆ ในวันนั้น นอกนั้นก็เป็นกิจกรรมให้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่และรุ่นพี่ที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันในคณะและรั้วมหา’ลัยแห่งนี้ไปด้วยกัน

  ยิปโซได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีกสองหน่อในวันนั้น ก็คือนอกจากเมอาร์แล้วก็มี มะปรางกับมายด์ รวมกนกลายเป็นกลุ่มสี่สาว ทั้งสามคนรวมถึงเธอเองก็มีลุคคุณหนูๆ ไม่แพ้กันเลย แต่ถึงแม้จะดูเป็นคุณหนู บอบบาง น่ารัก แต่พวกเธอก็เอะอะมากพอดูเวลาอยู่ร่วมกันตามประสาเด็กวัยรุ่นเอนเนอจี้ล้นเหลือ

  แล้วยังมีอีกอย่างด้วยที่ยิปโซได้มาในวันนั้น ซึ่งก็คือ...

  “แกเปลี่ยนชื่อเหอะยิป ชื่อแกไม่เข้ากับคนในกลุ่มเลยอ่า” เมอาร์ตั้งต้นท้วงหลังจากที่พยายามตั้งชื่อกลุ่มเป็นชื่อกรุ๊ปแชทอยู่พักใหญ่ แต่ไม่ได้ชื่อ

  “เออ ก็ดีนะ เปลี่ยนเป็นชื่อที่ขึ้นต้นด้วยม.ม้าจิ” มายด์คล้อยตามด้วยดี และพาให้มะปรางคะยั้นคะยอ

  “เออ เปลี่ยนดีกว่า ชื่อหมวยมั้ย แกหน้าหมวยๆ อะ ชื่อนี้ก็ดีป้ะ”

  ยิปโซได้แต่มองเพื่อนใหม่ตาปริบ มาถึงจุดนี้แล้ว เธอจะห้ามอะไรพวกมันได้ ก็ต้องยอมตามน้ำไปใช่หรือเปล่า

  “เอ่อ... แล้วแต่”

  “ฉันก็ว่าดี ต่อไปนี้พวกเราจะเรียกแกว่าไอ้หมวยแล้วกัน”

  หลังจากเมอาร์สรุปจบชื่อแชทกรุ๊ปก็เลยสามารถตั้งว่า 4M ได้ ด้วยสาเหตุนี้เธอจึงได้ชื่อใหม่มาด้วย อันที่จริงเธอก็แอบสงสัยอยู่นะ มันจะตั้งว่า Y3M ไม่ได้เหรอ ก็เธอชื่อยิปโซอะ มาเปลี่ยนชื่อเธอทำไมมมม

  ยิปโซไม่รู้เลยว่าในอนาคตตลอดการเรียนที่คณะนี้จะไม่มีใครเรียกเธอว่ายิปหรือยิปโซอีกต่อไป ยกเว้น...

  Architecture อาสาสถาปัตย์

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down