Home/ เกิดใหม่ครั้งนี้ พระชายาท้องแฝดแล้วหนี Ongoing
สมเด็จ Yan Wang ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในราชวงศ์ Qin ตอนเหนือถูกหลอกโดยหญิงสาวที่คิดไม่เก่งและถูกบังคับให้แต่งงานกับเขา! แต่ในคืนวันแต่งงาน เธอฆ่าตัวตายบนเก้าอี้รถเก๋ง เลือดไหลนองถนน... หลังจากการตายของเขาเต็มไปด้วยความแค้น ชายสมัยใหม่จากตระกูลยาแล
About
Table of Contents
Comments (2)

มู่จื่อเหยี่ยนที่นอนจมอยู่กลางกองเลือดฟื้นขึ้นมา

ขณะที่นางลืมตาขึ้นมา ตรงหน้าปรากฏแสงสีแดงเข้มทำให้ตาพร่ามัวไปชั่วขณะ บนชุดแต่งงานสีแดงชาดมีคราบโลหิตสีแดงสดติดอยู่ เกี้ยวแต่งงานที่โคลงเคลงไปมาไม่หยุด ทำให้นางรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์

ที่นี่คือที่ใดกัน?

ไม่รอให้นางได้ตั้งสติ ทันใดนั้นด้านนอกเกี้ยวก็มีเสียงแหลมเสียดหูดังเข้ามา

“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เจ้าสาวตายแล้ว!”

จากนั้นหญิงรับใช้สูงวัยหลายคนก็พากันกรูเข้ามา รีบแหวกม่านของเกี้ยวเจ้าสาว แล้วลากร่างของมู่จื่อเหยี่ยนลงมา

มีเสียง“ปัง”ดังขึ้น มีดเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งตกลงบนพื้น

แสงสีขาวเสียดแทงตา มู่จื่อเหยี่ยนหรี่ตาลงเล็กน้อย ในสถานการณ์ที่วุ่นวายนางเหลือบไปเห็นบาดแผลตรงข้อมือ บาดแผลลึกจนเห็นกระดูก

ตรงบาดแผลยังคงมีโลหิตไหลซึมไม่หยุด

เป็นความเจ็บปวดที่ยากจะทนไหว

มู่จื่อเหยี่ยนพยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่เพราะเสียเลือดมาก นางจึงไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ จึงยอมให้หญิงรับใช้สูงวัยท่าทีแข็งกร้าวพวกนั้นลากร่างของนางไป

ในสถานการณ์ที่ชุลมุน มู่จื่อเหยี่ยนได้ยินเสียงเย้ยหยันดังมาจากรอบด้าน

“นั่น คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ลงมือกับตัวเองได้อย่างเลือดเย็นจริง ๆ โลหิตบนเกี้ยวแต่งงานไหลลงมาเป็นทางยาว”

“นางอยากตายทำไมไม่รีบตายไปเสียล่ะ รอให้ถึงหน้าประตูจวนของเยี่ยนอ๋องทำไมกัน

น่าสะอิดสะเอียนเสียจริง คงต้องโชคร้ายไปแปดชั่วอายุคน ต้องแต่งกับสตรีที่หมดลมหายใจไปแล้ว”

“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่มู่จื่อเหยี่ยนหรอกหรือที่ร้องไห้คร่ำครวญว่าจะแต่งกับเยี่ยนอ๋อง บังคับให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ ตอนนี้ได้แต่งงานสมใจแล้ว เหตุใดจึงตัดสินใจจบชีวิตลงในเกี้ยวเจ้าสาวล่ะ?”

“ทุกคนต่างรู้ดีว่าเยี่ยนอ๋องชิงชังนางแค่ไหน แม้วันนี้จะแต่งเข้าจวนเยี่ยนอ๋องอย่างราบรื่น แต่ชีวิตหลังแต่งงานก็คงไม่ต่างจากแม่ม่ายสักเท่าใด มีชีวิตราวกับตายทั้งเป็น สู้ตายในเกี้ยวเจ้าสาวยังจะดีกว่า ตายไปแล้วยังมีได้ครองตำแหน่งพระชายาเอกของเยี่ยนอ๋อง ช่างมีหน้ามีตานัก”

เหล่าสาวใช้ด้านหนึ่งก็นินทาไปด้วย ด้านหนึ่งก็ยกร่างของมู่จื่อเหยี่ยนไปด้วย ในห้องหอ จากนั้นก็โยนร่างของนางทิ้งไว้บนเตียง แล้วจากไปอย่างไม่แยแส

มู่จื่อเหยี่ยนรู้สึกปวดหนึบที่ศีรษะ ภาพความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยจำนวนมากปรากฏขึ้นในหัว

นางอึ้งงันอยู่นาน ในที่สุดก็ได้สติแล้วรู้ว่าตังเองได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง

สาวใช้ที่อยู่ในห้องหอกลัวว่าตนเองจะโชคร้าย เลยพากันออกไปตั้งนานแล้ว

มู่จื่อเหยี่ยนฝืนสังขารลุกขึ้นนั่ง เลิกผ้าคลุมหัวเจ้าสาวสีแดงขึ้นที่อยู่บนศีรษะออก นางมองเห็นบาดแผลอันน่ากลัวที่อยู่ตรงข้อมือของตัวเองอย่างชัดเจน เวลานี้เลือดยังคงไหลไม่หยุด

คมมีดที่กรีดลึกลงไปเช่นนี้ ดูก็รู้ว่าตั้งใจจะจบชีวิต

มู่จื่อเหยี่ยนต้องอดทนต่อความเจ็บปวด นางใช้นิ้วสกัดตำแหน่งเส้นลมปราณสำคัญหลายจุดเพื่อห้ามเลือด จากนั้นนางได้ฉีกทึ้งผ้าสะอาดผืนหนึ่ง เพื่อนำมาพันบาดแผล

ขณะที่มู่จื่อเหยี่ยนกำลังจัดการกับบาดแผลอยู่นั้น ทันใดนั้นด้านนอกประตูก็มีเสียงฝ่าเท้ารีบร้อนดังแว่วมา

หญิงรับใช้วัยกลางคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู หน้าตาตื่นตกใจร้องขอความเมตตา “ท่านอ๋อง โปรดระงับโทสะด้วย”

“ไสหัวไปให้หมด ข้าอยากจะรู้นัก ว่าสตรีนางนั้นต้องการทำอะไรกันแน่!”

พอพูดจบ ร่างของบุรุษสูงใหญ่ใช้เท้าถีบประตูห้องนอนจนเปิดอ้าออก แล้วก้าวเท้าเข้ามาด้านใน

มู่จื่อเหยี่ยนที่ใช้มือพยุงตัวอยู่ตรงขอบเตียง ฝืนเงยหน้าขึ้น ภาพตรงหน้าเลือนราง นางคล้ายกับมองเห็นบุรุษในชุดยาวสีขาวปรากฏตัวต่อหน้า

บุรุษผู้นี้ก็คือเยี่ยนอ๋อง หนานกงรุ่ยหยวนไม่ใช่หรือ?

รอบกายเขาแผ่กลิ่นอายความน่าเกรงขามออกมา เบือนหน้าไปสั่งหญิงรับใช้วัยกลางคนว่า “พวกเจ้าเฝ้าหน้าประตูไว้ให้ดี ไม่มีคำสั่งของข้า ใครก็ห้ามเข้าไป”

หลังจากพูดจบ เขาก็ปิดประตูอย่างแรง

เสียงที่ปิดประตูดังมาก แผ่นหลังของมู่จื่อเหยี่ยนมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมา

หนานกงรุ่ยเหยี่ยนไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้ามาก็ใช้มือบีบไปรอบลำคอของนาง แล้วออกแรงกดลงบนเตียงนอนสีแดงสด ท่าทางที่ดุร้ายนั้น ราวกับพวกเขามีความชิงชังฝังลึก

มู่จื่อเหยี่ยนไม่แม้แต่จะสงสัย ชายที่อยู่ตรงหน้านี้อยากจะสังหารนาง

ความทรมานจากการขาดอากาศหายใจ การไร้เรี่ยวแรงจากการเสียเลือด ความรู้สึกประดังเข้ามาภายในอก นางดิ้นรนอย่างไม่รู้ตัว

มู่จื่อเหยี่ยนเค้นเสียงออกมาจากลำคอ “ปล่อย ปล่อยมือ!”

บนเตียงมงคลที่วางเต็มไปด้วยถั่วลิสง เกาลัด และอินทผลัมแดง ระหว่างที่นางกำลังดิ้นรนธัญพืชเหล่านี้ก็ร่วงหล่นลงสู่บนพื้น

คนที่อยู่ด้านนอกกลัวว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต เอ่ยเตือนออกมา “ท่านอ๋อง โปรดเมตตาด้วย”

“หุบปากลงให้หมด!” หนานกงรุ่ยหยวนคำรามอย่างโกรธจัด

เดิมทีควรเป็นวันมงคลของทั้งคู่ แต่สถานการณ์ตรงหน้าคือเจ้าตายข้าอยู่ ออกจะเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงไปหน่อย

ในห้องหอขนาดใหญ่ เหลือแค่คู่บ่าวสาวที่ยังไม่ได้กราบไหว้ฟ้าดิน

มู่จื่อเหยี่ยนที่โดนรัดคอเริ่มหายใจไม่ออก ภาพตรงหน้ากลายเป็นเลือนราง เหนือศีรษะของนางมีน้ำเสียงโหดเหี้ยมของบุรุษดังขึ้น

“มู่จื่อเหยี่ยน แผนการของเจ้าช่างเยี่ยมยอดเหลือเกิน! นั่งในเกี้ยวเจ้าสาวแล้วกรีดข้อมือตัวเอง สร้างเรื่องความปั่นป่วนไปทั่วเมือง ในเมื่อเจ้าอยากตาย ข้าก็จะสงเคราะห์เจ้าเอง ”

พูดแล้ว เขาก็เพิ่มแรงบีบที่มือ

เพื่อที่จะให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อ มู่จื่อเหยี่ยนสะกดกลั้นอารมณ์ให้เย็นลง ใช้มือคลำไปยังหัวไหล่ของเขา อาศัยจังหวะที่หนานกงรุ่ยหยวนไม่ทันตั้งตัว หาจุดลมปราณ แล้วใช้กำลังทำหมดจู่โจมลงไป

พริบตานั้นร่างของเขาก็แข็งทื่อ ขยับตัวไม่ได้ ทั่วร่างแข็งทื่อล้มลงไปกับพื้น

มู่จื่อเหยี่ยนกุมลำคอตัวเอง แล้วกระอักไออย่างรุนแรงออกมา “แค่ก ๆ”

ร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น นานทีเดียวกว่าจะค่อย ๆ กลับมาหายใจได้อย่างปกติ

เกือบจะโดนไอ้สารเลวรัดคอตายเสียแล้ว!

ในเวลาเดียวกันนั้น มู่จื่อเหยี่ยนรู้สึกได้ถึงอาการแปลก ๆ ความร้อนค่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของตัวเอง

นี่ไม่ใช่สภาวะของการสูญเสียเลือดหรือโดนหรืออาการที่โดนบีบคอ

หรือว่านางโดนวางยาพิษ?

หรือว่าก่อนหน้านี้ที่นางอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวแล้วกรีดข้อมือตัวเอง ไม่ใช่เพราะต้องการฆ่าตัวตาย แต่เพื่อต้องการขับพิษในร่างกายตัวเอง

หนานกงรุ่ยหยวนบันดาโทสะ พูดน้ำเสียงเดือดดาล “เจ้ากล้าลอบทำร้ายข้าหรือ?”

มู่จื่อเหยี่ยนรู้สึกว่าคำพูดของเขาช่างน่าขันนัก เจ้าสามารถรัดคอข้าได้ แต่ข้าไม่สามารถตอบโต้เจ้ากลับงั้นหรือ? กระต่ายที่ตื่นกลัว มันก็กัดคนเป็น เป็นเจ้าที่บีบบังคับข้า

มู่จื่อเหยี่ยนที่เมื่อครู่เกือบโดนรัดคอจนขาดออกเป็นสองท่อน น้ำเสียงของเธอจึงแหบแห้งอย่างมาก

“ตั้งแต่สมัยโบราณมา สตรีต้องให้ความเคารพสามี”

หนานกงรุ่ยหยวนคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร ถามด้วยเหตุและผลว่า “คนไร้ค่าอย่างเจ้า ไปเรียนเรื่องการสกัดจุดมาจากที่ใดกัน?”

เมื่อครู่หนานกงรุ่ยหยวนออกแรงเต็มที่เพื่อที่จะแก้การสกัดจุด สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือ นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังทำให้เส้นลมปราณเขาได้รับบาดเจ็บ และความรู้สึกว่ากำลังภายในตีกลับ

“เจ้าควรออมแรงเอาไว้ คนที่สามารแก้การสกัดจุดของข้าได้คาดว่ายังไม่ลงมาเกิด! ฝีมืออย่างเจ้า รอชาติหน้าก็ยังคงแก้ไม่ได้ ”

เมื่อเวลาผ่านไป ยาที่อยู่ในร่างกายของมู่จื่อเหยี่ยนยิ่งมีฤทธิ์เพิ่มขึ้น ร่างกายนี้ไม่มีแม้แต่กำลังภายใน รอบตัวนางก็ไม่มีสิ่งใดที่จะมาใช้แก้พิษ

หากไม่รีบถอนพิษออก ร่างกายที่ทั้งเล็กและบอบบางของนาง จะต้องมีอันตราถึงชีวิต

มู่จื่อเหยี่ยนที่กำลังอดทนต่อพิษที่อยู่ในร่างของนางอย่างสุดชีวิต ในขณะเดียวกันนางก็เหลือบมองหนานกงรุ่ยเหยี่ยนที่อยู่ด้านข้าง

มนุษย์ที่เผชิญกับสถานการณ์ที่สิ้นหวัง มักจะเจอทางออกเสมอ คนที่อยู่ตรงหน้าคือความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อของนางงั้นหรือ?

หนานกงรุ่ยหยวนถูกนางจ้องจนรู้สึกอึดอัด เขาถามเสียงเย็น “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down