เมื่อตื่นขึ้นมาเธอกลายเป็นมเหสีของเจ้าชายที่โหดร้ายและเต็มไปด้วยความโหดร้าย นอกจากนี้คุณยังไม่ได้รับความเอ็นดูจากใคร ภายในที่พักของเจ้าชาย เธอหิว เธอไม่มีเสื้อผ้าที่อุ่นขึ้น และยังต้องเผชิญกับสตรีร่วมคืนที่กำลังชันษา เธอยังต้องโดนพระเจ้าสามีบีบบังคับ ... เซียวโฮเยียนบอก "ใครที่ชอบความทนถึงงานนั้น แต่ยายข้าไม่ให้บริการแล้ว!" เธอขอจะลาที่นี่ถ้าพระเจ้าชายได้รับข้อพิพากษา เธอพยายามย้ายออกไปเป็นสาววัยรุ่นที่มีความปรารถนาที่จะหลับโซ่มาแรก. แต่ใครจะคาดว่าหลังจากจดหมายแยกทาง ซีเอินฮาวาซิออกไปอย่างอิสระ ฝืนอยู่ในที่หลบภัยนั้นทำไม เธอต้องทำธุรกิจคือเป็นคนรวยเศรษฐี! เมื่อเงินเพิ่มขึ้นมาก เธอก็รับสนับสนุนมากจากหนุ่มหน้าใสกราบรวม. เธอกำลังยุ่งยากมีการปฏิเสธเจ้าชายหนุ่มที่มา เจ้าชายเดินเข้ามาด้วยหน้าที่ดำสนิท “ฉันจะดูว่าใครก game tiec หญิงของฉัน!" ช่างน้ำขุ่น: "หัว?" "เจ้าชายคิดจะกันกลับใหม่? ได้ คิวให้ฉัน!"
“สาดน้ำให้นางฟื้น!”
ถังน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งถังแล้วถังเล่าถูกสาดไปบนพื้นที่มีร่างของหญิงสาวที่มีบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย พวงแก้มที่งดงามนั้นเป็นสีคล้ำจากความหนาวเย็นซึ่งไม่ต่างไปจากศพผู้หญิงที่อยู่ในโลงศพน้ำแข็ง
“อื้อ...” ทันใดนั้นเปลือกตาของนางก็ขยับเล็กน้อย
นี่มันอะไรกัน หนาวมากเลย...
นางยังคงไม่มีสติอยู่ แต่ความหนาวเย็นจากห้องเก็บน้ำแข็งทำให้นางต้องตื่น
“ฟื้นแล้ว นางฟื้นแล้ว!” ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนราวกับถูกคลุมไปด้วยตาข่ายขนาดใหญ่ ใบหน้าที่ดุร้ายกลายเป็นใบหน้าที่น่าเกลียดอย่างยิ่งท่ามกลางหิมะโปรยปราย
เสียงทุ้มต่ำและเย็นชาดังออกมาอย่างชัดเจน “ถ้ายังไม่ตายก็ตีต่อไป!”
เมื่อหยูหราวได้ยิน นางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นทันที
นางยังไม่ตายหรือ?
ที่นี่ที่ไหนกัน!
นางมองเห็นหิมะขาวโพลนเต็มไปหมดและจวนอันใหญ่โตน่าเกรงขามมีโคมแขวนอยู่แต่กลับไม่ได้งานมงคล
ท้องฟ้ามืดดำ ทั่วทั้งลานเต็มไปด้วยแสงเหลืองนวลประหลาดจากโคมวังหลวง ล้อมรอบไปด้วยกลุ่มชายหญิงคนรับใช้ในชุดโบราณที่มีท่าทางน่ารังเกียจ
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!
นางจำได้ว่านางถูกคนในครอบครัววางแผนจ้างคนมาลอบฆ่านาง เห็นได้ชัดว่านางหลบหนีได้สำเร็จ แต่ในระหว่างทางกลับบ้านจู่ๆรถของนางก็เกิดระเบิด
นางไม่อยากหวนนึกถึงฉากที่นางถูกระเบิดร่างออกเป็นชิ้นๆนั้นเลย เพียงแค่หวนนึกถึงก็ทำให้นางเจ็บปวดทะลุเข้าไปถึงกระดูกและโกรธแค้นไม่หยุด
แต่ว่าที่นี่คือที่ไหนกัน หรือว่านางทะลุมิติมา?
ผลั๊ว!
เห็นเพียงแส้เส้นยาวฟาดลงมาอย่างรุนแรงราวกับว่ามันจะฟาดนางให้ตาย! ห
ยูหราวกลั้นลมหายใจโดยไม่คำถึงถึงความเจ็บปวดและพลิกตัวหลบแส้ที่ฟาดลงมา
“เจ้ายังกล้าหลบอีกหรือ?”
ในคืนที่สลัวมืดครึ้ม ชายในชุดสีดำ ใบหน้าเย็นชาและเคร่งขรึมดวงตาหรี่ลงและออกคำสั่งให้หยุดพวกเขาหยุดโบยจากนั้นก็หยิบแส้ไป
ราวกับกับนักล่าที่คิดจะเอาชนะเหยื่อ ชายสวมชุดผ้าคลุมสีดำก้าวเท้าเข้ามาใกล้นางทีละก้าว มังกรเงินบนชายแขนเสื้อกลายเป็นความโกรธที่น่ากลัวคอยกัดกินผู้คน
เมื่อเขายกมือขึ้น แส้ยาวพร้อมด้วยข้อมือก็ขยับขึ้นลงพุ่งเข้ามาด้วยแสงอันเย็นเฉียบ ฟาดลงบนตัวของนางอย่างโหดเหี้ยม การเคลื่อนไหวนั้นเร็วเกินไป นางไม่สามารถหลบเลี่ยงได้
หยูหราวเจ็บจนแทบกรีดร้องออกมาแต่นางกัดฟันแน่นแล้วจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังเฆี่ยนตีนางด้วยดวงตาแดงก่ำ
ชายหนุ่มผู้นั้นรูปงามราวกับเทพ น่าเสียดายที่มีสีหน้าเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง ทั่วทั้งตัวล้อมรอบไปด้วยกลิ่นอายดุร้ายหนาแน่น ราวกับราชาแห่งนรกที่ออกมาจากนรกเก้าขุม ทำให้ผู้คนเพียงแค่มองก็เกิดความหวาดกลัวแล้ว
นางกัดฟันแน่นแล้วดันกลับด้วยกำลังทั้งหมดที่มี “รู้เพียงแค่วิธีตีผู้หญิง เจ้าเป็นผู้ชายจริงหรือ! ต่อให้วันนี้ตัวข้าต้องตายที่นี่ก็จะต้องทุบตีเจ้าให้ได้!”
ชายผู้นั้นลดแส้ยาวลง ยืนเอามือไพล่หลังราวกับราชาปีศาจ มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา”เจ้ายังไม่ยอมรับความผิดของเจ้าอีกหรือ?”
หยูหราวกัดฟันและแอบรวบรวมกำลังทั้งหมดรวบรวมสติไว้ที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า ในที่สุดก็ลุกขึ้นได้อย่างมั่นคง
“ความผิดหรือ?”
“ชั่วชีวิตนี้ตัวข้าไม่เคยทำความผิด!”
มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อยอย่างเย่อหยิ่ง ถ่มเลือดแดงสดในปากทั้งหมดไปทางหนานกงเย่!
หนานกงเย่ไม่ทันตั้งตัวถูกหยูหราวถ่มเลือดแดงสดใส่ สายตาของเขาเยือกเย็นยิ่งขึ้น “เซี่ยโหวเยียน เจ้ารนหนที่ตาย!”
“นี่เจ้าไม่เข้าใจคำพูดคนหรือ ตัวข้าวันนี้ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!”
ขณะที่พูดหยูหราวก็กระโจนเข้าต่อหน้าหนางกงเย่ราวกับหลอกล่อและตบฝ่ามือออกไปอย่างรุนแรง เมื่อฝ่ามือแห่งสายลมพัดครั้งแล้วครั้งเล่า นางรู้สึกถึงในร่างกายได้อย่างลึกซึ้งและไม่สามารถตามการแปรเปลี่ยนของกังฟูได้!
เกิดอะไรขึ้น นี่ไม่ใช่ร่างกายของนาง!
ประกอบกับตอนนี้ต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บอีกครั้ง ไม่ถึงสิบกระบวนท่าก็ถูกชายหนุ่มกำราบอย่างราบคาบ
“มีทางเข้าสู่สวรรค์แต่เจ้ากลับไม่ไป ไม่มีประตูเข้าสู่นรกแต่เจ้ากลับกระโดดเข้าไป ในเมื่อเจ้าอยากตายมากนัก วันนี้ตัวข้าจะช่วยสนองให้เจ้าเอง”น้ำเสียงของหนานกงเย่เต็มไปด้วยโหดเหี้ยม
ทันทีที่เสียงพูดจบลงก็เกิดฟ้าร้องดังกระหึ่มลงมาจากท้องฟ้าเหนือพระราชวังราวกับประกาศการตายของเซี่ยโหวเยียน จากนั้นพายุหิมะก็ตกทั่วพระราชวัง
ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาดนัก!
เหล่าสาวใช้และองครักษ์วิ่งไปหลบใต้ชายคาโดยไม่รู้ตัว
มีเพียงหนานกงเย่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่หวั่นไหวกับพายุหิมะที่กระทันหันนี้แม้แต่น้อย เขายกแส้ขึ้นเหนือศีรษะของหยูหราวอย่างเย็นชา คิดที่จะทำให้นางได้ดั่งสมปรารถนา
อย่างไรก็ตาม ขณะที่แส้กำลังจะฟาดลงมา ก็มีเสียง “ช้าก่อน” ดังมาจากระยะไกลพร้อมกับเสียงเดินอย่างรวดเร็วบนหิมะและใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนเหลือระยะทางเพียงหนึ่งฉื่อ
เมื่อหยูหราได้ยินเสียงก็ตกตะลึงไปพักหนึ่ง นี่มีคนมาช่วยนางหรือ?
ทันทีที่นึกถึงเปลือกตาของนางก็ปิดลงอย่างไม่อาจควบคุมได้ในที่สุด จากนั้นร่างกายแดงซ้ำก็ล้มลงอย่างแรงใต้ฝ่าเท้าของหนานกงเย่