ในชาติที่แล้ว เซียวหนานหลี่คือนักพรตเต๋า เขากำลังจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอยู่แล้ว ทว่ากลับถูกสังหารด้วยแผนการของศัตรูซะก่อน ไม่คิดเลยว่าเซี่ยวหนานหลี่ได้เกิดใหม่ในร่างของนายน้อยเซียวอี้ที่ไม่มีใครให้ความสนใจ ทุกคนประหลาดใจกับทักษะทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ของเขา แต่เขาไม่ใช่เสี่ยวยี่คนเก่าอีกต่อไป ปัญหาที่คนอื่น ๆ พบเป็นเรื่องกล้วย ๆ สําหรับเขา คนที่อยากสร้างปัญหาต่อเขา และอยากได้วิชาแพทย์และความสามารถของเขาไป ล้วนพ่ายแพ้เขาหมด แม้แตความรักจากคนสวย เขายังไม่สามารถยอมรับได้ชั่วคราว เพราะเขายังมีเรื่องที่สําคัญกว่าต้องทํา สิ่งเดียวที่เขาต้องพิจารณาก็คือจะกลับสู่จุดสูงสุดได้อย่างไร
“เซียวอี้ ไอ้ขี้แพ้เอ๊ย แกกล้าเสนอหน้ามาที่นี่เพื่อพบผู้หญิงของฉันเรอะ?”
"ซ้อมมันให้น่วมแล้วโยนมันไว้ข้างถนน จับมันแก้ผ้าด้วย!" ผู้ชายซึ่งเป็นชู้รักของแฟนสาวเซียวอี้ตะคอกเสียงดัง
เซียวอี้มาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ แต่เขาคือผลผลิตอันไม่คาดฝันของมารดา เขาไม่รู้จักบิดาของตัวเองด้วยซ้ำ
เมื่อไม่กี่วันมานี้มารดาผู้ติดเหล้าและยาเสพติดอย่างหนักของเขาได้ถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุเสพยาเกินขนาด นับตั้งแต่นั้นมาเซียวอี้ผู้ถูกตราหน้าว่าเป็นรอยด่างพร้อยได้กลายเป็นเสี้ยนหนามตำตาของทุกคน
เซียวอี้ทนไม่ได้กับการถูกดูหมิ่นเหยียดหยามเช่นนี้ เขาเอ่ยทิ้งท้ายว่า "จะไม่ยอมทนต่อการดูถูกเด็ดขาด" และรีบรุดออกจากบ้าน
หลังจากใช้เงินก้อนสุดท้ายจนหมดเกลี้ยง เขาก็ถูกเจ้าของบ้านเช่าขับไล่ไสส่งอย่างไร้ปราณี เขาจึงหันไปพึ่งพา จูหง แฟนสาวของเขา แต่เธอกลับทรยศเขา
เซียวอี้ผู้มีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วตัวสวมใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว เขาเดินโซเซอยู่ถนนด้วยความสิ้นหวัง
ทันใดนั้นมีรถบรรทุกขนาดใหญ่คล้ายมุ่งเป้ามาที่เขา และขับพุ่งใส่เขาด้วยความเร็วสูง
...
เกิดความรู้สึกเบาหวิวใต้ร่างของเขา มีกลิ่นยาเล็กน้อยอบอวลรอบปลายจมูกของเขา เซียวหนานหลี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
เด็กสาวใบหน้าสดใสนอนฟุบอยู่เบื้องหน้าเซียวหนานหลี่ และพาดมือบนร่างเขา เธอรีบหันหน้าไปอีกทางอย่างตื่นเต้น ก่อนจะตะโกนว่า "พ่อ เขาตื่นแล้ว!"
ยามที่เซียวอี้ประสบอุบัติเหตุ เขาเสียชีวิตคาที่ทันที และร่างกายของเขาถูกครอบครองโดยเซียวหนานหลี่
ณ ด้านหลังตู้ยา ชายร่างอ้วนเตี้ยในวัยราวห้าสิบกำลังบ่นพึมพำ ทว่าก็ยอมเดินเข้ามาใกล้เซียวหนานหลี่แต่โดยดี “หึ แกนี่ใจอ่อนไม่เคยเปลี่ยน ลืมไปแล้วเรอะว่าแกเคยโดนขูดรีดเพราะแส่หาเรื่องช่วยคนอื่น?”
"แกน่ะยังโชคดี ผู้ชายคนนี้แค่ได้รับบาดเจ็บจากการกระทบกระเทือนเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุรถชนร้ายแรง" ชายผู้นั้นเบนหน้ามองเซียวหนานหลี่
“ไม่ใช่แค่กระทบกระเทือนเท่านั้น!” เซียวหนานหลี่เลิกผ้านวมขึ้นและหยัดกายนั่ง เขาคว้ากล่องชุดเข็มฝังเข็มข้างกาย จากนั้นจึงหยิบเข็มขนาด 3 นิ้วออกมา 3 เล่ม แล้วเล็งไปยังจุดฝังเข็มไป่ฮุ่ย จุดเฉิ่นติง และจุดเหรินจงตามลำดับ เพียงบิดนิ้วเบา ๆ เข็มทั้งหมดก็ฝังเข้าไปในสมองของเขา
“อ๊า? คุณทำอะไรน่ะ? เข็มเล่มยาวมากเลย!” หญิงสาวกรีดร้องและปิดปากของเธอด้วยความหวาดกลัว
“เฮ้ย ๆ ถ้าแกอยากฆ่าตัวตายก็อย่ามาทำในคลินิกของฉัน! ฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วย!” ใบหน้าของชายวัยกลางคนพลันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาตะโกนออกมาอย่างร้อนรน
“ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ตาย!” เซียวหนานหลี่กล่าวขณะที่เขาสะบัดปลายเข็มเหล็ก เข็มทุกเล่มสั่นรัวด้วยความถี่พิเศษ
ยิ่งไปกว่านั้น แรงสั่นสะเทือนของจุดฝังเข็มได้ถูกกระตุ้นเช่นกัน สีชมพูแปลกตาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนจุดฝังเข็ม จากนั้นสีชมพูจึงค่อย ๆ กระจายไปตามเส้นลมปราณในร่างเขา จากนั้นไม่นานริ้วสีชมพูบางเบาพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซียวหนานหลี่อย่างชัดเจน
“ฮะ? พ่อ เส้นสีแดง ๆ คืออะไรน่ะ?” หญิงสาวอุทานด้วยความแปลกใจ
“นี่ อย่าทำตัวโง่ ๆ! ไม่งั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ! ถ้าเกิดแกเป็นอะไรไปขึ้นมา ก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน” ชายคนนั้นรีบล้วงมือถือขึ้นมาทันที
“หึ ไม่คิดเลยว่าการแพทย์แผนจีนจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ บัดนี้ไม่มีใครล่วงรู้เคล็ดวิชาเข็มจตุรงค์อันแสนยอดเยี่ยมเช่นนี้อีกแล้ว” เซียวหนานหลี่เอ่ยอย่างคับข้องใจ
เซียวหนานหลี่เกิดใหม่ในร่างของชายผู้อื่น ในชาติที่แล้ว เขาคือนักพรตเต๋า และดำรงตำแหน่งเป็นถึงปรมาจารย์ลำดับที่ 12 ของลัทธิแพทย์ศาสตร์มืด เขากำลังจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอยู่แล้ว ทว่ากลับถูกสังหารด้วยแผนการของศัตรูซะก่อน
เวลานี้เซียวหนานหลี่กำลังใช้เคล็ดวิชาเข็มจตุรงค์เพื่อรีดเส้นเลือดในสมอง และระบายเลือดที่คั่งค้างออกมา
ได้เวลาดึงเข็มออกแล้ว เซียวหนานหลี่ค่อย ๆ ดึงเข็มเหล็กออกทีละเล่ม
หลังเข็มเหล็กในร่างกายของเขาถูกดึงออกมาแล้ว เลือดสีดำพลันไหลจากรูจมูกของเซียวหนานหลี่
“เฮ้อ คิดว่าตอนนี้อาการค่อยยังชั่วแล้วล่ะ!” เซียวหนานหลี่ขยับแข้งขา ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“เฮ้ย นี่คือเลือดจากสมองเหรอ?” ชายผู้นั้นเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
"ใช่ ตอนนี้พอจะมีความรู้แล้วสินะ!" เซียวหนานหลี่พยักหน้า พลางจ้องใบอนุญาตประกอบกิจการที่แขวนอยู่บนผนัง จากนั้นเขาจึงหันไปมองชายผู้นั้นแล้วถาม "คุณคือฉินกวงหมิงใช่หรือไม่? คุณคือแพทย์แผนจีนประจำที่แห่งนี้รึ?"
“ใช่สิ มีอะไรเรอะ? ลูกสาวของฉัน เสี่ยวเยว่เป็นคนช่วยแกไว้ ไม่อย่างนั้นแกคงได้ลงนรกไปนานแล้ว” ฉินกวงหมิงคว้าเก้าอี้มา แล้วทิ้งตัวนั่งด้วยท่าทางสบายๆ เขานั่งไขว่ห้างและถามว่า "ไหนล่ะค่ารักษา? แค่สำนึกบุญคุณใช้กับที่นี่ไม่ได้หรอกนะ"
"พ่อ! ทำไมพ่อต้องเอาแต่สนใจเรื่องเงินด้วย?" ฉินเสี่ยวเยว่รู้สึกอับอายเล็กน้อยหลังได้ยินคำพูดของฉินกวงหมิง เธอกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ และส่งเสียงประท้วง
"นังเด็กน้อย แกคิดว่าทำไมฉันถึงเปิดคลินิกนี้? เพื่อทำบุญทำทานเรอะ? ได้โปรดเถอะ! ราคาข้าวของแพงขึ้นเรื่อย ๆ แถมคนที่เชื่อในแพทย์แผนจีนก็น้อยลง ฉันต้องกระเบียดกระเสียรกว่า 20 ปี ถึงจะพอจ่ายค่าเทอมให้แกได้เรียนในมหาวิทยาลัยแพทย์...” คำพูดรัวเป็นชุดออกมาจากใบหน้าโมโหโทโสของฉินกวงหมิง
“ก็ได้ ๆ หนูรู้แล้วน่า” ฉินเสี่ยวเยว่มุ่ยหน้าอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
“เฮ้อ นี่ก็ดึกแล้ว ฉันเลิกงานแล้ว แกจ่ายค่ารักษามาซะดี ๆ แล้วรีบไสหัวไปจากที่นี่ซะ” ฉินกวงหมิงสั่ง
"ผมไม่มีเงิน!" เซียวหนานหลี่นั่งตรงข้ามฉินกวงหมิง และเอ่ยอย่างใจเย็น
“อะไรนะ? แกไม่มีเงิน! โลกนี่ย่ำแย่ลงทุกวัน! ลูกสาวฉันช่วยแกไว้ แกจะไม่จ่ายเงินได้ยังไงกัน?” ฉินกวงหมิงกระโดดเหยง ๆ และตวาดเสียงดังสนั่น
“พ่อ พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรซักอย่างเลย แค่ให้เขานอนพักเท่านั้นเอง เขาไม่มีเงินก็แล้วไปเถอะ” ฉินเสี่ยวเยว่เดินไปใกล้ฉินกวงหมิง เธอถลึงตาใส่บิดาก่อนจะกล่าวแย้ง
“หมายความว่ายังไงที่เราไม่ได้ทำอะไร?” ฉินกวงหมิงตะโกนพร้อมกระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างโกรธเกรี้ยว
“ช่างมันเถอะ ได้มั้ยพ่อ?” ฉินเสี่ยวเยว่ไม่ยอมแพ้แต่อย่างใด เธอหันกลับมาและพูดกับเซียวหนานหลี่ว่า "ไม่เป็นไรหรอก คุณกลับไปได้แล้ว"
"ไอ้เด็กบ้า! ไม่ช้าก็เร็วคลินิกของฉันจะต้องล่มจมเพราะแกแน่!"ฉินกวงหมิงตวาดอย่างเดือดดาล ทว่าท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ทวงค่ารักษาอีก
โดยที่ไม่มีใครคาดคิด เซียวหนานหลี่กลับไม่ขยับตัวแม้แต่นิด เขาเพียงยักไหล่และเอ่ยว่า "ผมไม่มีที่ไป!"