About
Table of Contents
Comments

  ณ ป่าสนในดินแดนขั้วโลกเหนือ บรรยากาศช่างหนาวเย็นเพราะหิมะที่ตกและปกคลุมจนหนาทึบไปหมด ภายในกระท่อมไม้หลังหนึ่งมีชายชรารูปร่างสูงใหญ่กำลังนอนซมด้วยพิษไข้อยู่บนเตียง อาการของเขาเป็นเช่นนี้มาได้สามสี่วันแล้ว เขาเหม่อมองลอดบานหน้าต่างออกไปยังผืนฟ้าสีน้ำเงินเข้มยามค่ำคืนที่มีหมู่ดวงดาวสุกสกาวเปล่งประกายระยิบระยับอยู่เต็มไปหมด ทว่ากลับเงียบเหงาเหลือเกินด้วยที่ที่เขาอยู่นี้ร้างราห่างไกลผู้คน ได้ยินเพียงเสียงสายลมหนาวหวีดหวิวเท่านั้น

  ใบหน้าเหี่ยวย่นที่เจือไปด้วยความใจดีตอนนี้กำลังครุ่นคิดเรื่องอะไรบางอย่าง ความวิตกกังวลฉายชัดในดวงตาภายใต้แว่นตาหนาเตอะ และคิ้วดกขาวขมวดแทบจะเป็นปม

  แค่ก แค่ก แค่ก! เสียงไอโขลก ๆ จากชายชราดังมาเป็นระยะ หวังว่าสุขภาพของเขาจะไม่ย่ำแย่จนเกินไปนัก

  ทันใดนั้นประตูไม้ก็ถูกผลักเข้ามาตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง เขาได้ยินเสียงไอติด ๆ กันจึงรีบปราดเข้าไปหาชายชราทันที

  “ปู่เป็นยังไงบ้างครับ”

  “มาแล้วหรือนิค”

  นิคหรือนิโคลัสเป็นหลานชายคนโปรดของชายชรานั่นเอง ถามว่าโปรดแค่ไหนก็ลองดูจากชื่อซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับชายชราบนเตียงนี้ก็น่าจะพอคาดเดาได้

  “ครับปู่”

  “มาก็ดีแล้ว ปู่มีเรื่องอยากให้หลานช่วย”

  “ครับ”

  สายตาของผู้สูงวัยเหม่อมองออกไปด้านนอกอีกครั้ง มิอาจคาดเดาได้ว่าเขากำลังครุ่นคิดสิ่งใดอยู่ ตอนนี้ด้านนอกหิมะกำลังโปรยปรายอย่างหนัก คาดว่าอีกไม่นานคงได้เกิดพายุหิมะเป็นแน่ ภายในกระท่อมเกิดความเงียบ จนพักใหญ่เขาก็วกสายตากลับมาจ้องที่หน้าของนิโคลัสผู้เป็นหลาน แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างผู้ที่มีเรื่องวิตกกังวลเสียเต็มประดา

  “เฮ้อ! พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันคริต์มาสอีฟแล้ว ปีนี้ปู่คงออกไปทำหน้าที่ไม่ได้” เอ่ยเพียงแค่นี้นิโคลัสก็พอเข้าใจถึงความกังวลของผู้เป็นปู่

  “โธ่ปู่ครับ ปู่ก็อายุมากถึงขนาดนี้แล้ว ร่างกายก็ไม่แข็งแรงอีก ผมว่าปู่ควรจะเลิกทำมันได้แล้วนะครับ” ชายหนุ่มพูดกับผู้เป็นปู่อย่างเป็นห่วง

  “ไม่ได้! แค่ก แค่ก แค่ก!” เสียงแหบแห้งเอ่ยแย้งทันทีตามมาด้วยเสียงไอโขลก ๆ

  “แต่ว่า...” นิโคลัสกำลังจะแย้งแต่ปู่ของเขาไม่ปล่อยให้ได้โอกาสนั้น

  “นี่มันเป็นหน้าที่และความภาคภูมิใจของบรรพบุรุษเราที่เราต้องสืบสาน” ผู้เป็นปู่พูดอย่างภาคภูมิ สิ่งนี้เป็นทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบจากรุ่นสู่รุ่น

  “ปู่ครับ แต่นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับ ไม่มีใครเชื่อเรื่องตำนานซานตาคลอสแล้วครับ แม้แต่เด็กสามขวบยังไม่เชื่อเลยครับ พวกเขารู้ดีว่าคนที่ให้ของขวัญคือพ่อแม่ของพวกเขา”

  ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้ทัศนคติและ

  ความเชื่อต่าง ๆ ของคนในแต่ละยุคเปลี่ยนไป เรื่องราวของซานตาคลอสที่มาแจกของขวัญให้เด็ก ๆ จึงกลายเป็นเพียงเรื่องปรัมปราในจินตนาการเท่านั้น

  “แต่ตัวหลานเองก็รู้ดีว่าตำนานนั่นมันมีจริงไหม”

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down