About
Table of Contents
Comments

เสียงร้องของทารกน้อยเพิ่งคลอดออกมา ลืมตาดูโลกครั้งแรก ดังไปทั่วจวนของท่านประมุขหุบเขาเทวะ บุตรสาวคนเดียวของท่านประมุขได้ให้กำเนิดทารกแฝดหญิง เวลานั้นบนท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์หมดทั้งดวง

ท่านผู้เฒ่าหุบเขาเทวะทำนายดวงชะตาของทารกแฝดทั้งสอง ดวงชะตาของผู้เป็นน้องพิฆาตต่อดวงชะตาของผู้เป็นพี่ ไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กแฝดทั้งสองให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ทั้งสองต้องถูกแยกจากกันตั้งแต่เกิด จนกว่าอายุของพวกนางจะครบ 17 หนาว จึงจะสามารถพานพบและกลับมาใช้ชีวิตฉันพี่น้องคืน

นับแต่นั้นมาทั้งสองจึงถูกแยกจากกัน แฝดพี่อยู่ในการเลี้ยงดูของท่านตาหรือท่านประมุทหุบเขาเทวะ แฝดน้องอยู่ในการเลี้ยงดูของบิดามารดาสกุลฟางในแคว้นซ่ง ความลับเรื่องนี้ถูกปิดบังซ่อนไว้ไม่ให้พวกนางได้รับรู้

แฝดพี่นามว่า หยางจู ถูกเลี้ยงดูเยี่ยงบุรุษฝึกฝนวรยุทธ์ตั้งแต่เด็ก นิสัยสุขุมรอบคอบ เย็นชาหน้าน้ำแข็ง พูดน้อยต่อยหนัก คราที่หยางจูเพิ่งจะอายุครบ 2 หนาว ท่านผู้เฒ่าตรวจดูดวงชะตาของนางอีกครั้ง พบว่าดวงวิญญาณอีกครึ่งดวงได้ล่องลอยสูญหายไป และยังเป็นดวงวิญญาณที่แข็งแกร่งมากกว่าดวงวิญญาณที่อยู่กับนาง ส่งผลให้หยางจูมีโรคประจำตัวหลับลึกนานเหมือนจำศีล

แรก ๆ ท่านประมุขเป็นกังวลกับการหลับลึกนานของหลานสาว กลัวว่านางจะไม่ฟื้นคืนมา ทว่าพอได้ฟังความจากท่านผู้เฒ่า จึงทำให้ท่านประมุขคลายกังวล

สาเหตุที่นางต้องหลับลึกเพราะดวงวิญญาณที่อยู่กับนางพยายามตามหาดวงวิญญาณอีกครึ่งดวงที่สูญหายไป ท่านผู้เฒ่ากล่าวว่าเมื่อนางอายุครบ 17 หนาว ดวงวิญญาณที่หายไปจะกลับเข้ามาสิงร่างเดิมและล่อหลอมรวมเป็นดวงวิญญาณสมบูรณ์

ณ หุบเขาเทวะ ลานประลองฝึกยุทธ์

“หยางจู ครานี้เจ้าหลับไปนานเท่าใด?”

เสียงนั้นคือเสียงของจางหมิ่นสหายคนสนิทของหยางจูอายุมากกว่านาง 3 หนาว พวกเขาสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก บิดาของจางหมิ่นคืออาจารย์หมอในหุบเขาเทวะ

“ครานี้ข้าหลับไปนานกว่า 10 วัน”

“เจ้ายังฝันเห็นเรื่องเดิม ๆ อยู่อีกหรือไม่?

“ก็ยังเป็นเรื่องเดิม เพียงแต่......”

“แต่อันใดหรือ?”

“เปล่า”

“หยางจู อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของเจ้าแล้ว พวกเราออกจากหุบเขาไปเที่ยวแคว้นซ่งดีหรือไม่? ข้าได้ข่าวว่าแคว้นซ่งจะจัดเทศกาลหยวนเซียว น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก”

“เจ้าไม่รู้หรือ ว่าข้าถูกสั่งห้ามออกจากหุบเขาจนกว่าอายุจะครบ 17 หนาว”

“คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อีกไม่กี่วันเจ้าก็จะอายุครบ 17 หนาวแล้ว ถือซะว่าทำเพื่อสหายของเจ้าสักครั้งเถิด”

“ข้าว่ายามนี้ ข้าพูดมากเกินเหตุอันควร ขอตัวก่อน” นางไม่สนใจสหายเดินหนีไปอย่างรำคาญใจ

“หยางจู เจ้าหน้าน้ำแข็ง คอยดูเถิดข้าต้องพาเจ้าออกไปเที่ยวกับข้าให้จงได้!” จงหมิ่นแอบมีใจให้สหายมานานแล้ว ทว่านางกลับเย็นชาต่อเขายิ่งนัก

ณ จวนรองสกุลฟาง แคว้นซ่ง

“พ่อบ้านฟู่ เซียนเออร์กลับมาจากสำนักศึกษาแล้วหรือ?”

“ยังขอรับฮูหยิน”

“นี่ก็ยามซวีแล้ว นางไปเถลไถลที่ใดอีก”

ปลายยามซวี บ่าวในเรือนรีบเข้ามารายงานผู้เป็นนายหญิง

“ฮูหยิน คุณหนูรองกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

ร่างบางเข้ามาปรากฏตัวเบื้องหน้ามารดา

“เซียนเอ๋อร์ เหตุใดถึงเถลไถลเช่นนี้?”

“ท่านแม่ ลูกขออภัยด้วยเจ้าค่ะ พอดีลี่เหมยนัดลูกทานสำรับเย็นที่จวนของนาง ทำให้ท่านแม่เป็นห่วงแล้ว”

“เหตุใดถึงไม่ให้บ่าวจวนลี่มาแจ้งให้แม่ทราบเล่า จวนอยู่ใกล้กันเพียงแค่นี้ ทีหลังอย่าทำเช่นนี้อีก ไปไหนมาไหนควรบอกให้แม่รับรู้ ไม่เช่นนั้นแม่อาจจะต้องลงโทษเจ้า”

ร่างบางรีบเข้าไปสวมกอดมารดาอย่างออดอ้อน “ท่านแม่ลูกสำนึกผิดแล้ว ให้อภัยลูกด้วยเถิด”

มารดาลูบผมเงางามอย่างเอ็นดู “พักเรื่องนี้ไว้ก่อน แม่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจ้า อีกไม่กี่วันเจ้าจะอายุครบ 17 หนาวแล้ว คุณชายเฟิงได้ส่งแม่สื่อมาทาบทามสู่ขอเจ้า เจ้าเห็นพ้องเช่นไร?”

“ลูกไม่ได้ชอบคุณชายเฟิงเจ้าค่ะ ลูกคิดกับเขาแค่สหายที่เรียนด้วยกันเท่านั้น”

“เช่นนั้นก็ดี พี่ชายของเจ้ายังไม่ออกเรือน เจ้าออกเรือนก่อนคงไม่งาม”

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นลูกขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”

แฝดน้องนามว่าฟางเซียน จิตใจดี กิริยางดงามฉบับคุณหนูในห้องหอ ทว่านางแสนซื่อมองโลกในแง่ดี หัวอ่อนเชื่อคนง่ายไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม บวกกับความขลาดมักจะทำให้นางถูกกลั่นแกล้งอยู่บ่อยครั้ง

เยี่ยเฟิงบุตรชายตระกูลเยี่ย 1 ใน 4 ตระกูลใหญ่ของแคว้นซ่งพึงใจฟางเซียน เรื่องนี้ในสำนักศึกษารู้กันไปทั่ว เป็นเหตุให้อี้หลันพยายามกลั่นแกล้งฟางเซียนให้เป็นตัวตลกอยู่บ่อยครั้ง เพื่อจะทำให้เยี่ยเฟิงเลิกสนใจฟางเซียนหันมาสนใจนางแทน

แม้กระทั่งองค์ชายสี่ ซ่งไห่เฟิง เขาพึงใจฟางเซียนอยู่เช่นกัน ความงามของฟางเซียนกลับสร้างศัตรูอย่างไม่รู้ตัว จะมีแต่ลี่เหมยสหายคนสนิทของนางเท่านั้น คอยปกป้องนางอยู่ไม่ห่าง

ยามเฉิน ฟางเซียนและลี่เหมยกำลังเดินเข้ามานั่งประจำโต๊ะเรียนของทั้งสอง อี้หลันเห็นศัตรูหัวใจเดินผ่านมายังโต๊ะนาง นางขัดขาฟางเซียนจนสะดุดล้ม หัวฟาดขอบโต๊ะ จนเลือดซึมขมับขวา

‘พลั่ก!’

“ต้องขอโทษเจ้าด้วยนะ พอดีข้าไม่ทันระวัง”

ลี่เหมยถึงขั้นจะเข้าไปตบสั่งสอน ทว่าฟางเซียนห้ามไว้ก่อน

“ลี่เหมย อย่า!!!”

“อี้หลัน มันจะมากเกินไปแล้ว เจ้าตั้งใจขัดขาฟางเซียนใช่หรือไม่”

“ลี่เหมย ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่ได้ตั้งใจ เหตุใดต้องใส่ร้ายข้าเช่นนี้ด้วยเล่า?”

“เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เพราะเยี่ยเฟิงไปทาบทามสู่ขอฟางเซียนทำให้เจ้าไม่พอใจ เจ้าอิจฉาสหายของข้าเลยคิดจะทำร้ายนางใช่หรือไม่”

“ลี่เหมย!!!”

“ไม่ว่าเจ้าจะทำร้ายฟางเซียนเช่นไร เยี่ยเฟิงก็ไม่มีวันหันมามองเจ้าหรอก เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะเจ้าจิตใจสกปรก อิจฉาริษยาฟางเซียนถึงขั้นทำร้ายนางเยี่ยงนี้ หากใครได้เจ้าไปเป็นฮูหยิน มีหวังฉิบหายวายวอดทั้งจวน

“นางลี่เหมย!!!!”

“ทำไม! เจ้าจะตบกับข้ารึ? เข้ามาเลย วันนี้ข้าจะต่อยหน้าเจ้าให้เสียโฉมเลยคอยดูเถิด เข้ามาสิ!”

“เจ้า!!! เจ้าอย่าคิดนะว่าตระกูลลี่ของเจ้าจะเป็น 1 ใน 4 ตระกูลใหญ่ แล้วข้าจะกลัวเจ้า ฝันไปเสียเถิด”

“เจ้าไม่ต้องอ้างถึงตระกูลของข้าหรอก เอาตัวต่อตัวให้รอดก่อนเถอะ”

“เจ้า!!!”

“ ลี่เหมยพอเถอะ ข้าไม่เป็นไรหรอก พวกเราไปนั่งกันเถิด”

ลี่เหมยประคองฟางเซียนพาไปยังโต๊ะเรียน ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าช่วยซับเลือดให้สหาย ฉากนี้อยู่ในสายตาของหนิงอันคุณหนูสามของตระกูลหนิง ที่แอบหลงรักองค์ชายสี่ ซ่งไห่เฟิง

“จิวหลิน แผนการที่ข้าให้เจ้าเตรียม เรียบร้อยแล้วหรือยัง?”

“สหายเจ้าไม่ต้องห่วง ข้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว รอแค่เหยื่อมาติดกับ เพียงเท่านั้นทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผน”

“ดี” หนิงอันมีความคิดชั่วร้ายต้องการใส่ร้ายฟางเซียนให้เสียชื่อเสียงและถูกไล่ออกจากสำนักศึกษา เพราะนางได้รับข่าวจากพี่สาวของนางที่ดำรงตำแหน่งสนมขั้นเฟย ว่าองค์ชายสี่ทูลขอพระราชทานสมรสกับฟางเซียน

4 ตระกูลใหญ่ในแคว้นซ่งประกอบด้วย ตระกูลเฟิงประกอบกิจการค้าขาย 4 ปัจจัย ตระกูลลี่คือตระกูลองครักษ์เสื้อแพรรับใช้ฮ่องเต้ทุกยุคสมัย ตระกูลหนิงประกอบกิจการค้าขายสมุนไพร และตระกูลฉินค้าขายอาวุธสงคราม

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down