About
Table of Contents
Comments

  วันศุกร์สุดสัปดาห์ ดูจะเป็นที่โปรดปรานของคนทำงานทั่วไป แต่ทว่ามันกลับเป็นวันแสนธรรมดาของคนบ้างานอย่าง ทิพปภา เป็นอย่างมาก ตอนนี้เวลาสองทุ่มกว่าๆ ซึ่งแน่นอนว่าพนักงานในบริษัทได้กลับไปกันนานแล้ว แต่ทว่าเวลานี้ยังแว่วเสียงรองเท้าส้นสูงเดินทิ้งน้ำหนักสม่ำเสมอ ไม่เร่งรีบ แต่ไม่เฉื่อยชา บ่งบอกความกระฉับกระเฉงของเจ้าของฝีเท้าว่ายังไม่โรยแรง

  หญิงสาวในชุดเสื้อสูทสีดำและกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีเดียวกันเดินถือแฟ้มผ่านหน้าห้องบนตึกชั้นสิบสองของบริษัท Bounce cosmetics พื้นที่ส่วนนี้ถูกสงวนไว้เป็นที่พักของบุคลากรระดับสูง และเธอผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น และเหมือนจะเป็นเพียงหนึ่งเดียว เพราะสองห้องที่เหลือยังคงไม่มีบุคลากรคนใดเข้ามาพักอยู่เลยตั้งแต่เปิดบริษัท นี้มา

  CEO สาวใบหน้าจิ้มลิ้มเมื่อรู้ตัวว่าเกือบจะเดินถึงห้องตัวเอง แล้วก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อสูทตัวหนาออกทีละข้าง สีหน้าผ่อนคลายตามลำดับ เพราะนี่คือที่พักผ่อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับคืนนี้

  หากแต่พอเธอกดรหัสเข้าห้องยังไม่ทันครบทุกหลัก แต่แล้วบานประตูจากด้านในก็ถูกดึงเปิดออกให้เธอสะดุ้งตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มสดใส เหมือนเป็นเรื่องปกติที่มีคนอื่นเข้าออกห้องนี้ด้วยรหัสของเธออยู่บ่อยๆ

  “อ้าวคุณนรา มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ฉันเพิ่งจะทำงานเสร็จ ตอนนี้หิวข้าวมากๆ เลยค่ะ” ทิพปภาพูดพร้อมกับเบี่ยงตัวเดินเข้าห้อง พร้อมๆ กับที่สตรีวัยเดียวกับเธอได้พาตัวเองออกไปยืนนอกห้องแล้วเช่นกัน

  “ดิฉันเข้ามาได้ไม่ถึงสิบนาทีนี่เองค่ะ ผู้อำนวยการบอกว่าได้บอกประธานทิพปภาไว้แล้วว่า วันนี้จะให้มาดูแลของใช้ที่ขาดน่ะค่ะ อ้อ...ยาสระผมนราลองเปลี่ยนยี่ห้อให้ใหม่แล้วนะคะ เพราะผู้อำนวย—การบอกว่าต้องใช้สลับกันบ้าง มันจะทำให้ดีต่อเส้นผมค่ะ” นราเอ่ยเป็นจังหวะน่าฟังพร้อมคำพูดติดปาก ‘ผู้อำนวยการบอกว่า’ อีกทั้งยังยิ้มแย้มและยินดีทำงานนี้อย่างเต็มใจ เพราะการเป็นเลขาส่วนตัวของ ผู้อำนวยการบริษัทแห่งนี้ไม่ใช่แค่ยืนๆ จดๆ และรายงาน หากแต่หมายรวมถึงต้องช่วยดูแลทุกอย่างที่ผู้อำนวยการสั่งให้ทำทั้งหมด

  ซึ่งสำหรับในความคิดเห็นของทิพปภานั้นแล้ว นราไม่ต่างจากแม่บ้านของเธอเสียเท่าใด อยู่บริษัทนี้มาจะสามปีเข้าแล้ว นอกจากเธอที่เดินเข้าๆ ออกๆ ห้องนี้ ก็จะมีแค่นรากระมังที่ได้สัมผัสชีวิตส่วนตัวของหัวเรือใหญ่แห่ง Bounce cosmetics มาตั้งแต่เริ่มจนบัดนี้

  คืนนี้เธอกลับเข้าห้องเร็วกว่าปกติ เพราะผลวิจัย skin care ตัวใหม่ยังไม่ออก แต่เธอก็ค่อนข้างที่จะเครียดอยู่สักหน่อย เพราะความรู้สึกลึกๆ บอกกับเธอว่ามันมีแนวโน้มที่จะไม่สำเร็จผ่านมาตรฐานของตัวเธอเอง...ค่อนข้างตลกอยู่สักหน่อยที่ผู้ร่วมงานกับเธอมักจะระอาในความเรื่องมากของเธอ อีกทั้งการใช้เซ้นส์สัมผัสมากกว่าเหตุผลมันพลอยทำให้คนอื่นไม่ค่อยจะเข้าใจการทำงานของเธอเสียเท่าใด บางครั้งเธอก็อยากกลับไปเป็นแบบเดิม ซึ่งเป็นแค่หญิงสาวที่ชื่นชอบและมีความสุขกับการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางในบริษัทเล็กๆ ของตัวเองเท่านั้น

  ย้อนไปเมื่อสิบปีกว่าที่แล้ว เธอก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่วิ่งตามความฝัน ฝันที่จะมีกิจการเป็นของตัวเอง ฝันที่อยากให้ผู้คนได้ใช้ครีมบำรุงผิวที่ไร้สารเคมี ซึ่งมันไม่ใช่ฝันแรกของเธอหรอก หากแต่เธอได้เรียนรู้ที่จะมองหาเป้าหมายอยู่สม่ำเสมอ ลองถูกลองผิดเพื่อค้นหาแนวทางและความชอบของตัวเองอยู่ตลอด สมัยนั้นเธอเพิ่งจะเรียนจบสาธารณสุข ดูเหมือนจะไม่ค่อยตรงกับงานที่ทำเลยสักนิด แต่ชีวิตก็ผกผันให้เอาวุฒิเข้าไปสมัครงานกับหลายที่ ที่ทำให้เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จนมันรวมกลุ่มเป็นก้อนความฝันขึ้นมาได้สำเร็จ

  ครั้งที่เคยทำงานในโรงพยาบาล แม้นเธอจะอยู่แค่แผนกเล็กๆ ในนั้น แต่ก็มีบ้างที่เธอเห็นผู้ป่วยด้านผิวหนัง อีกทั้งยังมีคนรักความงามมาศัลยกรรมใช้บริการเพิ่มมากขึ้นทุกวัน มันเป็นปัญหาที่ทำให้คนเคยเรียนกายวิภาครู้สึกอึดอัด เธอไม่ควรที่จะมานั่งทำงานเอกสารหรือแค่ติดต่อประสานงานอยู่แบบนี้

  ฝันเล็กๆ ในครั้งนั้นทำให้เธอเริ่มศึกษาอย่างจริงจังด้วยตัวเอง ยิ่งเวลาเดินตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างทีไร ใจมันก็เต้นแรงอยากจะทำแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาบ้าง ตอนนั้นเธอจึงตัดสินใจออกจากงานประจำ เพื่อที่จะออกไปช่วยอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเก่าเพื่อวิจัยงานชิ้นสำคัญ ซึ่งมันก็เกี่ยวกับครีมบำรุงผิวจากสมุนไพรไทยนั่นเอง

  ความฝันของเธอถูกเก็บเงียบมาโดยตลอด แต่จะมีเพียงอาจารย์เท่านั้นที่เข้าใจและให้การสนับสนุนกันอยู่เงียบๆ หลังจากนั้นเธอก็ฝ่าฟันมาด้วยตัวเอง เธอเคยถูกมองว่าเสียสติและบ้าไปแล้ว เพราะคนรอบข้างมักจะได้เป็นหนูทดลองกับผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในแพคเกจบ้านๆ ของเธออยู่เสมอ คำดูถูกดูแคลนและแสยะยิ้มเหยียดในการเริ่มต้นของเธอเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

  แต่เธอก็ใช่จะท้อ หากคิดว่ามันเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อที่จะพัฒนาและพิสูจน์ตัวเองให้ดีเด่นได้สักวัน ยิ่งหนทางเดินลำบากมากเท่าใด มันก็ยิ่งท้าทายให้เธอค้นคว้าอย่างไม่หยุดยั้ง จากที่เคยมีแต่คนเบือนหน้าหนี ในที่สุดผลิตภัณฑ์มันก็ช่วยพิสูจน์ความสามารถของเธอ วัตถุดิบที่คัดสรรผสมปรุงรวมกับหัวใจที่ตั้งมั่น เธอปรารถนาที่จะให้ผู้คนมีสุขภาพผิวที่ดีและชะลออายุผิวไว้ด้วยกลเม็ดทางธรรมชาติ แม้นจะเห็นผลช้า แต่แน่นอนว่ามันคุ้มค่ากว่าที่จะเสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสนเพื่อสต๊าฟผิวให้ตายไปในช่วงเวลาหนึ่ง…ก็แค่คืนความเต่งตึงได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว

  พอเริ่มได้รับการยอมรับ เครื่องสำอางยี่ห้อ Bounce ก็ถูกจำหน่ายออกมาขายในกลุ่มคนใกล้ชิด ก่อนที่จะมันขยายตลาดออกไปเรื่อยๆ และเมื่อมาถึงวันที่โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น กำลังซื้อจึงทวีขึ้นตาม จนระดับของดีมานด์ไม่บาลานซ์กับซัพพลาย การทำงานเพียงลำพังมันจึงยากขึ้นตามไปอีก เพราะลูกค้าพอศรัทธาในแบรนด์ก็ต่างเรียกร้องให้ทำตัวนั้นตัวนี้เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีมากยิ่งขึ้น

  ในทางกลับกันแทนที่กิจการจะสร้างรายได้มากขึ้น หากแต่พอหยิบจับทำหลายสิ่งเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ มันก็เป็นดั่งดาบ สองคมสำหรับคนที่ยังไม่มีความพร้อมและไม่ได้เก่งเรื่องบริหารเช่นเธอ

  และแล้วในที่สุดก็ได้เดินทางมาสู่ทางตัน...ทุนจมกำไรหด สิ่งที่เหนื่อยล้ามาหลายปีกำลังจะพังลงต่อหน้า

  แต่โชคชะตายังเข้าข้างทิพปภาอยู่ เพราะลูกค้าคนสนิทที่มักจะมานวดหน้ากดจุดด้วยหินบำบัดเพื่อยกกระชับใบหน้า ได้รับรู้สถานการณ์ได้เป็นอย่างดี เธอคนนั้นจึงแนะนำให้รู้จักกับนักลงทุนเพื่อช่วยอุ้มกิจการ Bounce คืนมาอีกครั้ง ทิพปภาใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเพราะปัจจัยรอบด้านกำลังกดดันหนัก เธอยินยอมเซ็นสัญญาเข้าเป็น CEO พร้อมข้อเสนอที่น่าสนใจในหลายด้าน

  เพราะการตัดสินใจและคิดค้นสูตรยังอยู่ที่เธอ และสิ่งที่สำคัญที่สุดในครั้งนั้น เป็นเพราะนักลงทุนผู้นั้นเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเธออยู่ก่อนแล้ว และยังให้การยอมรับในประสิทธิภาพ แถมยังมองเห็นลู่ทางว่าเป็นสินค้าที่มีอนาคตไกลเหมาะแก่การลงทุน อีกทั้งยังมองข้ามว่างานของเธอไม่ได้มีปริญญาหลายใบมาการันตี ว่าเรียนจบหลักสูตรเลิศเลออะไรทั้งนั้น ทว่าเขาคนนั้นไม่เคยคิดถาม เพียงแต่บอกว่าพอใจในตัวสินค้าที่มีแนวทางการผสมผสานระหว่าง Aroma กับการบำรุงฟื้นฟูผิวพรรณได้อย่างลงตัว พวกเธอคุยกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถตกลงกันได้อย่างไม่มีพิธีรีตองอะไรมากนัก

  มันดูง่ายดายจนเธอเองยังคาดคิดไม่ถึง เพราะอยู่ๆ จากเจ้าของบริษัทเล็กๆ ที่มีห้องทำงานเป็นตึกแถวธรรมดา แต่เพียงไม่ทันไรหลังจากเซ็นสัญญาชีวิตก็เปลี่ยนไปเป็นหน้ามือหลังมือ การบริหารงานในคนหมู่มากทำให้เธอหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจในตอนแรกๆ แต่เพราะได้รับคำแนะนำจากผู้อำนวยการบริษัทที่ดูแลเป็นอย่างดี ถึงตอนนี้เธอจึงสามารถรับมือได้กับหลายสถานการณ์มากขึ้น

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down