About
Table of Contents
Comments

  “แนนอยู่ไหน” กรเดชเงยหน้าขึ้นไปถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

  “กำลังมาค่ะท่าน” หญิงสาวหน้าตาคมคายตอบด้วยรอยยิ้มละมุน

  “เค้าจะเข้ามาทำงานแล้วใช่มั้ย เธอต้องดูแลเค้าให้ดีๆ นะศจี” ชายสูงอายุยังคงจะเอาแต่เงยหน้าขึ้นไปบอกกันทั้งรอยยิ้ม

  “ศจีสัญญาค่ะท่าน ว่าจะดูแลคุณแนนให้ดีที่สุด ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

  ตอนนี้โลกของกรเดชมีแต่ความสุขเท่านั้น เรื่องร้ายๆ ในชีวิตกำลังจะถูกลืม และตอนนี้แม้กระทั่งเรื่องที่น่ายินดี เขาก็เกือบจะไม่หลงเหลือความทรงจำ

  “แนนอยู่ไหน”

  คำถามเดิม พร้อมสีหน้าแบบเก่า กลายเป็นคำซ้ำซากที่เกิดขึ้นวนเวียนไปมากว่าสามรอบในเวลาสามนาทีที่คุยกัน

  อาการอัลไซเมอร์ของกรเดชกำลังทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และก่อนที่เขาจะไม่สามารถจดจำใบหน้าผู้ใดได้อีก ภรรยาคนที่ยืนอยู่เคียงข้าง จึงจำเป็นจะต้องตามตัวทายาทกลับคืนมาบริหารงานแทนผู้เป็นพ่อให้ทันเวลา

  และระหว่างที่กำลังเฝ้ารอการกลับมาของ นลัท ลูกสาวที่เหลือเพียงคนเดียว พวกเธอจึงต้องพยายามปกปิดอาการป่วยของชายผู้นี้เอาไว้อย่างสุดชีวิต

  เพราะหากว่ามันได้ถูกเปิดเผย กรรมการบอร์ดผู้ร่วมหุ้น จะต้องทำการประชุมเพื่อปลดเขาออกจากการเป็นประธานบริษัทเดชเดชา คอร์ปอเรชั่น อย่างแน่นอน

  “ให้ท่านพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันขอจัดการอะไรตรงนี้ก่อน” ศจีหันหน้าไปบอกชายอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

  “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปดูแลท่านก่อนนะครับ” อภิวัฒน์ เลขาคนสนิทของกรเดชพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปรับรถเข็นที่มีร่างของเจ้านายเดินไปยังอีกมุมของห้อง

  เมื่อกดปุ่มเลื่อนตู้หนังสือติดผนัง ก็ปรากฏประตูที่สามารถเปิดเข้าสู่อีกห้องที่เจาะทะลุไว้เชื่อมถึงกัน ซึ่งภายในนั้นจะเป็นห้องพักที่มีพร้อมความสะดวกทุกอย่าง เตียงนอน ห้องน้ำ แม้กระทั่งห้องฟังเพลงและดูหนังเลยทีเดียว

  “เจอตัวแล้วใช่มั้ย” ศจีกรอกเสียงลงใส่โทรศัพท์ในมือ

  “ขึ้นรถมาแล้วครับท่าน” บอดี้การ์ดหนุ่มตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

  “ให้ไปส่งที่คอนโดเลย เดี๋ยวอีกสักพักฉันจะตามเข้าไป” หญิงสาวพูดจบ ก็ต้องถอนหายใจเครียด

  ศจีกำลังจะเจอศึกหนัก ลูกเลี้ยงคนสวยที่พร้อมจะมองเหยียดกันตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะตั้งแต่ที่เธอได้เดินเข้าสู่คฤหาสน์ของกรเดชในฐานะภรรยาคนใหม่ ตั้งแต่นั้นมาลูกสาวคนโปรดก็ระเห็จตัวเองออกจากบ้านใหญ่หรูหรา ผู้หญิงคนนั้นประกาศกร้าวว่าขอตัดขาดกับครอบครัวของตัวเอง เพราะถ้ามีศจีจะไม่มีนลัทในตระกูลชิศวัฒน์อย่างแน่นอน

  เหตุการณ์นั้น มันเกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ทำไมวันนี้ศจีถึงยังรู้สึกถึงอาการหน้าชาๆ ได้อย่างแม่นยำนัก ก็ใช่น่ะสิ เพราะในสายตาของคนอื่น เธอมันก็เป็นแค่ผู้หญิงที่มีแต่ตัว ใช้หน้าตาเพื่อปอกลอกเอาทรัพย์สินและรีบคว้าเอาอำนาจในฝ่ายบริหารมาไว้ในกำมือ

  แต่ใครเลยจะรู้ว่า เธอก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของตระกูลชิศวัฒน์ ทั้งเธอและพวกเขาต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน ก็แค่ภรรยาในนามที่จะเข้ามาถ่วงดุลอำนาจ และที่ต้องยกฐานะขึ้นให้ทัดเทียมเจ้าของบริษัท เหตุก็เป็นเพราะพวกเขากำลังต้องการความสามารถของเธอ เพื่อที่จะมาแลกเปลี่ยนกันด้วยการทวงคืนสิ่งที่เธอเคยสูญเสียไป

  ทุกอย่างต้องอยู่ในกฎ ตามลายลักษณ์อักษรในสัญญาอย่างบิดพลิ้วไม่ได้ เหตุผลข้อนี้มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ร่วมลงนามเป็นพยาน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออภิวัฒน์ เลขาเก่าแก่ที่มอบกายถวายชีวิตให้กับตระกูลนี้ ส่วนอีกคนก็คือ นฤทธิ์ ลูกชายคนโตที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนก่อน

  สี่คนเท่านั้นที่เป็นผู้กุมความลับ ซึ่งตอนนี้เหลืออยู่เพียงแค่สาม และนลัทจะต้องเป็นอีกคนที่ควรจะรู้เรื่องนี้ในอีกไม่ช้า มันเป็นความร้อนใจของผู้รักษาผลประโยชน์ของตระกูลอย่างอภิวัฒน์ ที่จะต้องรีบเร่งทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง แม้ว่าที่ผ่านมาศจีจะทำงานอย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาเช่นไร แต่เธอก็เป็นเพียงคนนอกที่ไม่สามารถไว้วางใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เธอไม่สามารถจะปีนขึ้นไปสู่ตำแหน่งสูงสุดได้ ในเมื่อทายาทอีกคนยังเหลืออยู่ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้หวังสูงขนาดนั้น เพราะเป้าหมายของเธอไม่ใช่ที่นี่!

  และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด นั่นคือความเคลื่อนไหวของบริษัทเดชเดชาในตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง กลับเป็นศจีผู้เป็นสมองในการบริหาร และฝ่ายตรวจสอบก็คืออภิวัฒน์ ทั้งสองจะต้องร่วมมือกันในภาวะวิกฤติอันเรื้อรัง เพราะหัวเรือใหญ่ทั้งสองมีปัญหาสุขภาพรุมเร้าต่อเนื่องมาหลายปี

  ส่วนคนที่เคยทำตัวลอยตัวอยู่เหนือปัญหามานาน ตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่นลัทต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับพี่ชาย คำสั่งเสียสุดท้าย “กลับไปทำแทนพี่”

  “ทำไมคนที่ตายไม่ใช่นังนั่นนะ” นลัทบ่นงึมงำน้ำตาคลอ มือที่สั่นระริกยังจับกรอบรูปภาพนฤทธิ์ไว้แนบอก

  อีกไม่นาน เธอก็กำลังจะเดินเข้าสู่สิ่งที่หวาดกลัวสุดชีวิต เธอไม่ชอบทำงานแบบพ่อหรือพี่ชาย คิดมาตลอดว่าเป็นคนไร้ความสามารถที่จะไปยืนอยู่ในจุดนั้น

  ลูกเป็ดขี้เหร่ของกรเดช ไม่ได้อ้างถึงเรื่องหน้าตา หากแต่มันคือความสามารถและไหวพริบรอบตัว ซึ่งแต่ก่อนเธอเคยเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ชีวิตของเธอห่างไกลจากพี่ชายลิบลับ เกียรตินิยมหรือ? รางวัลเหรียญทอง? เธอไม่เคยได้สัมผัสแม้แต่คำว่าสอบได้อันดับเลขหลักเดียวเลยด้วยซ้ำ

  พ่อกับแม่มีให้เธอทุกอย่าง แต่ทำไมไม่คิดจะแบ่งสมองอันชาญฉลาดมาให้กันบ้าง เธอเกลียดการเรียน เกลียดการแข่งขัน เพราะเธอมักจะสั่งให้ตัวเองยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มอยู่เสมอ เธอไม่เก่งอะไรเลย นอกจากเก่งหาเรื่องเอาแต่ใจก็เท่านั้น

  สิ่งที่มีไม่เท่าคนอื่น มันซึมซับเข้าไปในทุกส่วนของจิตใต้สำนึก ทำได้เพียงปฏิเสธการเรียนรู้ เพราะคิดว่าถึงสอนให้ตาย คนอย่างเธอก็ไม่มีวันเข้าใจ เป็นได้เพียงเด็กหลังห้อง หลายครั้งที่ต้องยัดเงินเพื่อให้สอบผ่าน และที่ทำให้ขายขี้หน้าที่สุดก็เห็นจะเป็นการโดนจับได้เรื่องการแอบดูโพยในห้องสอบ มันเป็นเรื่องน่าอับอายจนเธอไม่กล้าก้าวขาเข้าสู่มหาวิทยาลัยใดอีก แค่ปริญญาใบเดียวก็ทำเอาเครียดกันทั้งบ้าน นี่ล่ะคือปัญหาที่ทำให้เธอไม่อยากเดินหน้าเข้าสู่เดชเดชา...เธอไม่พร้อม และไม่มีวันคิดว่าจะพร้อมเลยด้วยซ้ำ

  “พี่แมน แนนกลัว แนนทำไม่ได้ ทำไม่ได้แน่ๆ” สาวคิ้วเข้มยังจะพึมพำไม่ขาดปาก

  นลัทกังวลจนจะบ้า เธอไม่อยากทำ มันทำไม่ได้ ทำไมทุกคนไม่ปล่อยให้เธอไปทำร้านขายดอกไม้ต่อ เธอทำได้แค่นั้น เธอมีความสุขอยู่กับสีสันของพวกมัน เธอมีความรักที่จะจัดวางช่ออย่างไรให้ถูกใจลูกค้า เธอทำได้แค่นั้นจริงๆ แล้วทำไมจะต้องกระชากเธอออกมาจากสิ่งที่รักด้วยเล่า!

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down