Home/ เขยแต่งเข้า เขาเป็นมหาเศรษฐี Ongoing
ลูกเขยที่น่าสงสารไม่มีเงินซื้อรถแบตเตอรี่ด้วยซ้ำ แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นมหาเศรษฐี!
About
Table of Contents
Comments

ค่ำคืนนี้ คฤหาสน์ตระกูลอัครประภาช่างวิจิตงดงาม สว่างไสว

ผู้คนเดินทางไปที่นั่นเพื่อฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของหญิงชราของตระกูลอัครประภา—ดวงดาว อัครประภา

"คุณย่า! สุขสันต์วันเกิดและมีความสุขมาก ๆ นะคะ"

“นี่คือของขวัญจากเรา เป็นใบชาหายากมูลค่าครึ่งล้านเชียวน้า”

“เพราะคุณย่าเลื่อมใสในพุธศาสนา ผมเลยเสนอราคาพิเศษให้คนจัดทำพระพุทธรูปหยกแกะสลักโบราณองค์นี้ถึง 7 แสนบาทเลยนะครับ”

......

เมื่อหญิงชราเห็นลูกหลานของตนมอบของขวัญให้ทีละคน เธอแทบจะยิ้มกว้างจากหูอีกฝั่งถึงหูอีกฝั่ง ห้องนั่งเล่นจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศสนุกสนาน

จนกระทั่ง จู่ ๆ ก็มีเสียงกระทบกระทั่งดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน

“คุณย่า ป้าฤดีจากบ้านเด็กกำพร้าเป็นโรคยูเรเมียครับ เธอต้องการเงินไปรักษา คุณย่ากรุณาให้ยืมเงินสัก 5 ล้านบาทได้ไหมครับ”

ทันทีที่เขาพูดจบ คฤหาสน์สุดหรูก็ตกอยู่ในความเงียบ ฤดี จิตเอี่ยม จากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่ถูกเอ่ยถึง

ทุกคนต่างหันไปทางผู้พูดด้วยสายตาเหลือเชื่อ

“นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ปราณนที”

“ถึงนายจะเป็นลูกเขยแต่งเข้าของตระกูลนี้ แต่นายก็เป็นถึงสามีหลานสาวคนโตของตระกูล กล้าดียังไงมาขอยืมเงิน 5 ล้านจากคุณย่า ทั้งที่นายไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้ท่านด้วยซ้ำ"

“ใช่ เมื่อสามปีที่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่พานายเข้ามา แถมยังเมตตาให้พี่จันทร์เจ้าแต่งงานกับนาย บางทีเวลานี้นายอาจะขอทานอยู่ตามท้องถนนก็ได้ อีกอย่างตอนนี้คุณปู่เสียไปแล้ว ยังจะทำตัวเนรคุณอย่างโจ่งครึ่มแบบนี้อีกเหรอ”

......

เมื่อหญิงชราได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คน รอยยิ้มของเธอก็ค่อย ๆ จางหายไป เธอจ้องมองปราณนที หรสิงฆ์ มือปาถ้วยน้ำชาลงกับพื้นพลางตะโกนอย่างโกรธจัด “สารเลว! คิดว่าหญิงชราอย่างฉันตายไปแล้วจริง ๆ รึไง”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนอยู่ในความตกตะลึง

ทันใดนั้น จันทราภา อัครประภา จันทร์เจ้า—ภรรยาของปราณนทีก้าวไปข้างหน้า อ้อนวอนกับหญิงชรา “ปราณไม่ได้ตั้งใจนะคะคุณย่า อย่าถือสาเลย—”

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะพูดจบ นลินลิดา อัครประภา ลิน—ลูกพี่ลูกน้องของจัทราภาเย้ยหยัน “พี่สาว สามีของพี่น่าทึ่งมากเลยนะ ฉันกับพัฒน์เพิ่งหมั้นกันเท่านั้นเอง แต่เขาก็ยังมอบรูปปั้นหยกแกะสลักแก่คุณย่า ส่วนสามีของพี่ไม่ได้เอาของขวัญมาให้แต่ยังขอยืมเงินจากคุณย่าด้วย พี่ไม่คิดว่าเราจะเป็นตัวตลกเหรอ ถ้าข่าวพวกนี้แพร่ออกไปน่ะ"

“พี่ปราณ เราเป็นถึงหลานเขยของตระกูลอัครประภา แต่หลานเขยคนโตอย่างพี่น่าขายหน้าจริง ๆ !” เสียงของลินเบาลง คู่หมั้นที่ยืนอยู่ข้างเธอ—สัณหพัฒน์ ม่านมณีตระการ พัฒน์ นายน้อยตระกูลใหญ่ในพื้นที่เอ่ยสำทับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามองปราณนทีด้วยสายตาดูถูก ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองจันทราภาเป็นครั้งคราว

เทพธิดาผู้โด่งดังทั่วทั้งเมือง ความงามของจันทราภาอยู่ในระดับที่แตกต่างจากนลินลิดา ลูกพี่ลูกน้องของเธอ

กระนั้น ผู้ที่เปรียบดั่งดวงดาวพร่างพรายอย่างเธอได้แต่งงานกับขยะอย่างปราณนที ย่อมทำให้คนส่วนใหญ่อิจฉาอยู่ลึก ๆ

ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวออกมา คฤหาสน์อัครประภาก็ปะทุขึ้นอย่างโกลาหล

“ไร้ยางอาย ยังกล้าที่จะอยู่ที่นี่อีกเหรอ ขายขี้หน้าชะมัด!”

“ใช่ ไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

“เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอยืมเงินหรอก เขามาเพื่อทำให้คุณดวงดาวโกรธต่างหาก!”

......

เมื่อได้ยินคำด่าจากทุกคนรอบตัวเขา ปราณนทียกยิ้มอย่างโง่เขลา

จากที่เงียบไปครู่หนึ่ง เขาถึงได้เอ่ยขอร้องอีกครั้ง “ได้โปรดเถอะครับคุณย่า ผมขอร้อง อาการของป้าฤดีสำคัญมากจริง ๆ ชีวิตเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ผมขอให้คุณย่าช่วยเมตตาเธอ—”

“ถ้าอยากจะช่วยเธอ ก็ใช้เงินตัวเองสิ ไอ้ขี้แพ้ จะมายืมเงินคุณย่าทำไม”

ก่อนที่ปราณนทีจะพูดจบ นนทิภัค อัครประภา ลัน—พี่ชายของนลินลิดาก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

เมื่อปราณนทีกลายเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ในครั้งนี้ การแสดงออกของจันทราภาก็ดูค่อนข้างอึดอัดเช่นกัน

หลังจากนิ่งไปสักพักใหญ่ เธอกระซิบ “คุณย่า ปราณเสียพ่อไปตั้งแต่เขาอายุ 8 ขวบ ป้าฤดีที่บ้านเด็กกำพร้าก็เป็นคนรับเขาเข้ามา ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ปราณคงจะตายไปนานแล้ว สิ่งเดียวที่เขาต้องการตอนนี้คือการตอบแทนบุญคุณ ได้โปรดช่วยเขาด้วย—"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงชรามีสีหน้ามืดลงแล้วพ่นลมหายใจ "ไม่มีปัญหาถ้าฉันจะต้องช่วยเขา แต่เธอต้องหย่ากับเขาและแต่งงานกับลูกชายตระกูลคณาบดินทร์ ถ้าตกลงตามนี้ ฉันจะให้เงินเขาทันที!"

เสียงกระซิบกระซาบดังหึ่งมาจากทั่วทิศทาง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาแปลกใจเลยเพราะทุกคนต่างรู้จักลูกชายตระกูลคณาบดินทร์ ผู้ที่หญิงชรากล่าวถึง

คณาบดินทร์เป็นตระกูลชนชั้นสูงของโคราช เทียบกับอัครประภาแล้ว นับว่าดีกว่ามากนัก ฐากูล คณาบดินทร์ชื่นชอบจันทราภามาโดยตลอด ดังนั้น หญิงชราจึงคิดว่าตนควรจะใช้โอกาสนี้เพื่อจับคู่ระหว่างจันทราภาและฐากูล เพื่อให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลคณาบดินทร์

ทันใดนั้น แม่บ้านก็วิ่งเข้ามาและประกาศดังด้วยความนอบน้อม “คุณฐากูลให้คนส่งของขวัญมาให้คุณท่านค่ะ จี้หยกโบราณมูลค่าสามล้าน เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดให้กับคุณท่าน!"

เมื่อเสียงของแม่บ้านดังขึ้น ทุกคนต่างพากันอุทานกับของขวัญชิ้นนั้น หญิงชราเองก็รู้สึกเปี่ยมสุขเช่นกัน

เธอร้องออกมาทันที “เร็วเข้า... รีบนำมันมาให้ฉัน”

แม่บ้านรีบยื่นจี้หยกให้

ในมือของเธอ จี้หยกนั้นใสและบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อมองแวบแรก หญิงชราสามารถบอกได้ว่าทันทีมันล้ำค่าอย่างเหลือเชื่อ

รอยยิ้มสดใสฉายบนใบหน้าของเธอ ถือจี้หยกในมือไม่ยอมวางลง

"รบกวนฐากูลจริง ๆ "

เมื่อพูดอย่างนั้น เธอมองไปที่จันทราภา และถามด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ "เธอตัดสินใจได้รึยัง"

จันทราภาส่ายหัวตอบโดยไม่ลังเลว่า “หนูจะไม่หย่ากับปราณค่ะ คุณย่า”

เมื่อได้ยินคำพูดชี้ขาดแบบนั้น หญิงชรามีท่าทีโกรธจัด ยกมือทุบโต๊ะ

“เธอกล้าดียังไงมาเหยียบย่ำข้อเสนอของฉัน ฉันไม่เข้าใจ ว่าสามีขยะของเธอ มันมีดีอะไร มองอะไรอยู่ รีบไสหัวไปซะ อย่ามาทำลายงานของฉัน!”

ปราณนทีกำหมัดแน่นไม่ปฏิเสธอะไรจนท้ายที่สุด แต่เขาหันไปหาภรรยาตน "จันทร์เจ้า ผมจะไปดูว่าป้าฤดีเป็นยังไงบ้าง ผมกลัวว่าเธอต้องอยู่คนเดียวในโรงพยาบาล"

จันทร์เจ้าตอบทันทีว่า “ฉันจะไปกับคุณ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงชราแห่งอัครประภาโกรธจนหน้าซีด “ถ้าเธอไม่กล้าทิ้งขยะนั่นตอนนี้ ฉันจะไม่รับข้อเรียกร้องนั่น!”

ปราณนทีเห็นว่าหญิงชราโกรธมากแค่ไหน เขาส่ายหัวไปมา "ไม่เป็นไร คุณควรอยู่ที่นี่ ฉลองวันเกิดคุณย่า"

ชายหนุ่มหันหลังจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

“เขาเป็นหลานเขยของตระกูลอัครประภาได้ยังไงกัน ก็แค่คนขี้ขลาดตาขาว!”

เมื่อเห็นว่าเดินพ้นไปแล้ว ทั้งครอบครัวอัครประภาก็ยังไม่หยุดเยาะเย้ยและวิพากษ์วิจารณ์

......

ณ โรงพยาบาล ปราณนทีพยายามเจรจาเพื่อขอเลื่อนจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดไปอีกสองสามวันได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม พยาบาลบอกเขา ว่าฤดีถูกส่งไปยังโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯแล้ว เพื่อเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน

พอได้ยินอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ผงะ "ค่าใช้จ่ายเท่าไรครับ ผมจะหาวิธีเอาเงินมาจ่ายให้ได้"

"ประมาณสิบล้านบาทค่ะ"

ปราณนทีพึมพัมกับตัวเอง ในหัวขาวโพลนปหมด "สิบล้าน..."

เมื่อพยาบาลเห็นท่าทีของคนตรงหน้า เธอพูดด้วยความประหลาดใจว่า "คุณจ่ายไป 5 ล้านแล้วนี่คะ คุณจ่ายส่วนที่เหลือได้อีกภายในหนึ่งสัปดาห์ค่ะ"

"จ่ายไปแล้ว 5 ล้าน ใครเป็นคนจ่ายครับ"

นางพยาบาลส่ายหัว “นั่น... ฉันไม่รู้หรอกค่ะ”

ขณะที่ปราณนทีกำลังครุ่นคิดอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชายผมหงอกสวมสูทก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา

เมื่อมองขึ้นไป เห็นว่าชายผู้นี้ให้ความยำเกรงกับตนอย่างน่าเหลือเชื่อ พลางโค้งคำนับเขาก่อนจะกล่าวว่า "นายน้อย ในที่สุดเราก็ได้พบกันอีกครั้งนะครับ!"

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down