About
Table of Contents
Comments

Prologue

เธอไม่ควรรักเขาตั้งแต่แรก...

หญิงสาวบอกกับตัวเองแบบนั้น ใบหน้าหมองเศร้ามองไปยังต้นไม้และท้องฟ้าที่อยู่เบื้องหน้าแม้ขอบฟ้าตะวันตกดินจะสวยมากขนาดไหนแต่จิตใจที่เจ็บปวดในตอนนี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย ความรู้สึกในใจทรมานจนแทบทำอะไรไม่ถูก ดวงตากลมมองท้องฟ้าสีส้มที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าไป ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย

“แม่หนู...ช่วยยายซื้อหน่อยสิ”

หญิงสาวเดินกลับมามองขนมที่เรียงรายอยู่ในกระจาด

“ขนมชั้นดอกกุหลาบไหมจ๊ะ”

“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูเห็นดอกกุหลาบแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี”

หญิงวัยสี่สิบปลายมองพลางยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น

“ขนมใส่ไส้” เธอพูดขึ้นหลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน “แล้วก็ขนมตาลค่ะ”

“หนูทำงานอยู่แถวนี่เหรอ”

“เปล่าค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงแผ่ว “แค่มาเดินเล่นเฉย ๆ ค่ะ”

“สามสิบบาทจ้ะ”

เธอหยิบเงินจ่ายแล้วเอื้อมมือรับถุงขนมมาจากแม่ค้า

“เออ...เดี๋ยวสิหนู เพิ่งมาที่สวนนี้ครั้งแรกใช่ไหม”

“คะ ?”

“ยายมีเรื่องดี ๆ จะบอก...” ยายขายขนมเว้นวรรคเงียบก่อนพูดต่อไปว่า “ได้ยินมาว่า ศาลข้าง ๆ สวนนี้น่ะศักดิ์สิทธ์มาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องความรัก คู่ครอง”

หญิงสาวยิ้มราวกับว่าไม่เชื่อคำพูดของยายแม่ค้า

“หลานยายก็เคยขอและสมหวังด้วยนะ”

“หนูว่า...”

“มีคนบอกว่าหากอธิษฐานอย่างแรงกล้า สิ่งที่ปรารถนาจะเป็นจริง”

“เออ...เอาไว้หนูจะมาลองค่ะ”

เมื่อพูดจบก็รีบเดินจากไปในทันที จนกระทั่งเดินห่างออกมามากพอสมควร จึงหยุดลงเพราะหัวใจที่สับสนกระวนกระวาย

ในใจเธอกำลังหวังอย่างนั้นเหรอ ? มันไร้สาระเกินไปหน่อยหรือเปล่า

หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึก ๆ กลั้นน้ำตาที่กำลังไหลลงมาอีกครั้งหนึ่ง

“บ้าชะมัด...” เธอพูดกับตัวเอง ขณะก้าวเท้ายาวเดินออกจากสวนไป ครั้นเงยหน้าจากพื้นมองตรงไปก็หยุดชะงักลง

นี่ศาลเจ้าที่ยายขายขนมพูดถึงใช่หรือไม่ ?

ศาลเจ้าขนาดกลางที่ตั้งอยู่ตรงข้างต้นไม้ใหญ่ มีดอกไม้และพวงมาลัยจำนวนหนึ่งที่คนนำมาวางไหว้บูชา หญิงสาวยกมือขึ้นลูบที่ต้นแขนเมื่อมีลมเย็นพัดผ่านราวกับมีบางสิ่งเข้ามาหาและผ่านไป เธอไม่ได้เดินเข้าไปแต่ยืนมองอยู่นาน เพื่อตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

แต่สุดท้ายก็ขอพรไปจนได้...หญิงสาวถอนหายใจขณะที่เดินห่างออกมาจากศาลเจ้า เธอหยุดเดินและหมุนตัวกลับไปมองในระยะไกลก่อนจะค่อย ๆ เดินต่อไป อันที่จริงแล้วก็ไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่กับคำบอกเล่าของยายขายขนม เพราะว่าสิ่งที่เธอขอนั้นยังไงก็ต้องเป็นจริงอยู่แล้ว

บ้าชะมัดเลย...!

เธอสะดุ้งจากภวังค์เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก้มตัวลงหยิบขึ้นมาดูปลายสายที่โทร. เข้ามาก่อนกดรับ

[อ่านข้อความแล้วหรือยัง อย่าลืมที่นัดกันนะ]

“อืม...” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่ว ขณะที่มองไปยังถนนข้างหน้าที่ห่างไปไม่ไกลนัก

[แล้วนี่เป็นอะไรหรือเปล่า เสียงดูเหมือน...]

คำถามสุดท้ายไม่ได้เข้าประสาทหูเลยสักนิด เพราะเสียงโวยวายกรีดร้องทำให้หญิงสาวส่งสายตามองไปข้างหน้า มองเหตุการณ์ที่กำลังชุลมุนจากการทะเละวิวาทกันของกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ไม่ไกลนัก เธอไม่ได้สนใจแต่ก็ยืนอึ้งอยู่นาน จนกระทั่งเห็นใบมีดลอยเข้ามาใกล้ ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อกำลังลอยผ่านอากาศมายังใบหน้า

หญิงสาวรีบตั้งสติและเบี่ยงตัวหลบได้อย่างเฉียดตายพอดี ไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทุกคนต่างก้มตัวหลบหรือวิ่งหนีออกห่าง ในกลุ่มของเด็กวัยรุ่นอีกฝ่ายที่ไม่มีปืนก็วิ่งหลบแต่ไม่วายที่จะหยิบของที่อยู่ใกล้ปาใส่อีกฝ่าย จนคนที่ถือปืนอยู่นั้นหันมาและยกมือขึ้นเล็ง

เธอมองเหตุการณ์แบบงุนงง ขาและร่างกายนั้นไม่ตอบสนองราวกับว่ากำลังช็อกและตกใจอยู่ จนกระทั่งเสียงปืนอีกนัดดังขึ้นเรียกสติกลับคืนมา หญิงสาวมองเด็กหนุ่มล้มลงกับพื้นด้วยความตกใจ ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนอีกหลายนัดยิงมา ชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต่างก็วิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว

หญิงสาวรีบกระเสือกกระสนไปให้ไกลจากที่นี่มากที่สุด ทว่า...อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ด้านหลังช่วงบริเวณอกก่อนจะค่อย ๆ ล้มลงที่พื้น แต่โชคก็ไม่ได้ดีมากนักเมื่อศีรษะของเธอล้มลงกระแทกกับของแข็งที่วางอยู่ตรงพื้นอย่างแรงด้วยเช่นกัน

เลือดสีแดงสดไหลไปทั่ว ตอนนี้ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะเอ่ยปากร้องขอความช่วยเหลือ ดวงตาพร่ามัวมองไปยังรั้วของสวนสาธารณะ เห็นเป็นเงาราง ๆ ของคนที่มองมา ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนักก่อนที่ดวงตาจะปิดสนิทลง

เธอกำลังจะตาย...

‘ความปรารถนาที่ขอมา ข้าจะรับมันไว้...’

เสียงเข้มแหบพร่าดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง ในตอนนี้เธอไม่มีแรงมากพอที่จะหันไปมองใบหน้าเจ้าของเสียง

ความปรารถนาของเธอ ?

หญิงสาวได้แต่นอนนิ่งอยู่โดยที่ไม่ขยับไปไหน เบื้องหน้าคือความมืดมิดไร้แสงสว่าง ทว่าจู่ ๆ แสงสีขาวนั้นก็ปรากฏขึ้นสว่างจนแสบตา

เกิดอะไรขึ้นกัน ?

‘มีคนมากมายที่อยากจะสมหวังกับความปรารถนาของตัวเอง แม้จะต้องแลกด้วยสิ่งที่รักมากที่สุด แต่กับเจ้าขอเพียงให้เขามีความสุข...’

ความหมายโดยนัยที่ฟังทำให้หญิงสาวพอจะเดาออกว่ามันคืออะไร...คำอธิษฐานของเธอ

“ฉันไม่ควรรักเขาแต่แรกแล้วจริง ๆ ...” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ขอบตามีหยดน้ำใสปริ่มอยู่ ปล่อยให้มันไหลลงพร้อมกับหัวใจที่เจ็บปวด เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอเองก็ไม่อยากจะอยู่ถ้าหากต้องรับรู้และทนเห็นหน้าเขาทุกวันหลังจากนี้

เสียงหัวเราะของชายปริศนาดังขึ้นหลายครั้งอย่างพึงใจ มีน้อยที่จะขอเรื่องแบบนี้ หากเป็นความรักมักจะขอให้กลับมารักกันเหมือนเดิม ขอให้แฟนหนุ่มทิ้งคนรักที่คบอยู่เสีย...หญิงสาวตรงหน้าช่างน่าสนใจเสียจริง

‘ดี !’

ดวงตากลมพยายามมองร่างและใบหน้าของเจ้าของเสียงนั้น แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อมีแสงสีขาวบดบังเอาไว้อยู่

‘จนกว่าจะถึงแรมสิบห้าค่ำเดือนเก้าหวนกลับมาอีกครั้ง มีเวลาที่จะเริ่มต้นรักที่ผิดพลาด หากทุกอย่างเปลี่ยนแปลง เจ้าจะมีชีวิตอยู่เฉกมนุษย์ทั่วไปด้วยวิญญาณและร่างกายนี้ แต่หากทุกอย่างเป็นดังเดิม...จะต้องตายและหายไปจากความทรงจำทุกคนตลอดกาล’

หญิงสาวไม่อาจเข้าใจความหมายที่ฟังได้ รวมทั้งร่างกายนั้นก็เจ็บปวดทรมานมากกว่าที่จะใช้สมองตรองได้ เธอเพียงแค่หลับตาลงและไม่รับรู้สิ่งใดอีกต่อไป…

‘แย่ละ ดันลบความทรงจำเดิมออก’ เสียงปริศนาดังขึ้นด้วยความตกใจแต่ก็คงไม่ทันเสียแล้วเมื่อส่งวิญญาณของหญิงสาวไปเรียบร้อย ‘ถ้างั้นก็เริ่มใหม่ไปแล้วกัน...’

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down