About
Table of Contents
Comments (1)

  สำหรับทุกสิ่งของมนุษย์ ครั้งแรกมักจะยากเสมอ แต่ครั้งต่อ ๆ ไปจะง่ายขึ้นอย่างเรื่องของผมที่จู่ ๆ ก็หลุดออกจากร่าง กลายมาเป็นวิญญาณเร่ร่อนโดยไม่รู้ตัว เพียงเพราะความผิดพลาดของ “ยมทูต”

  ภาพตรงหน้าที่ผมเห็นคือภาพของอุบัติเหตุครั้งใหญ่ รถชนกันแบบวินาศสันตะโรกว่าสิบคัน บางคันก็เสียหายยับเยินจากการถูกอัดก็อปปี้ เสียงไซเรนรถของโรงพยาบาลดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถตำรวจและรถดับเพลิงก็มากันอย่างพร้อมเพรียง เพราะหนึ่งในนั้นเป็นรถบรรทุกน้ำมันที่บรรทุกน้ำมันมาเต็มเปี่ยม ผมเห็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต่าง ๆ กำลังให้ความช่วยเหลือผู้คนในอุบัติเหตุดังกล่าวอย่างเร่งด่วน มีทั้งคนที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บ้างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส บ้างก็บาดเจ็บเล็กน้อยก็ว่ากันไป

  ผมรีบสำรวจร่างกายของตัวเอง ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ โชคดีไป

  ยัง...ยังไม่รู้ตัวอีก

  ผมรีบตรงเข้าไปดูคนเจ็บที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด ตามประสาคนที่ไม่นิ่งดูดาย เขานอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่บนถนน และยังไม่ได้รับการดูแล

  “เป็นยังไงบ้างครับคุณ เจ็บตรงไหนครับ”

  แต่คนเจ็บทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ผมถาม ผมคิดว่าเขาคงตกใจและกำลังเจ็บปวดกับบาดแผลที่ได้รับ มาได้รับคำตอบก็ตอนที่ผมเอื้อมมือไปจับตัวเขาแต่ไม่สามารถทำได้ มันเหมือนมือของผมราวกับวัตถุโปร่งแสง ผมพยายามจับตัวเขาอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ผมก้มมองมือทั้งสองข้างของตัวเองด้วยความตกใจ

  “เกิดอะไรขึ้น! ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

  ผมรีบลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ พยายามตะโกนเรียก และมองหาใครสักคนที่จะหันมาสนใจผม สุดท้ายก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งมองมาที่ผม ความดีใจทำให้ผมรีบเดินตรงไปหาเขาทันที

  “ตามมา” เป็นคำพูดแรกที่ผมได้ยินจากเขา

  ผมเดินไปตามคำสั่งแต่โดยดี เขาพาผมไปในที่ ๆ ผมไม่คุ้นเคยในเวลาเพียงชั่วพริบตา ราวกับนั่งไทม์แมชชีนของโดเรม่อน ปากก็เอ่ยถาม

  “เกิดอะไรขึ้นกับผม แล้วคุณเป็นใคร ทำไมถึงเห็นผมในขณะที่คนอื่นมองไม่เห็น”

  “ฉันคือผู้ที่มาคอยรับวิญญาณของคนที่ถึงฆาต”

  “ยมทูต”

  “เขาเรียกผู้กำหนดเวลา”

  “ก็เหมือนกันนั่นแหละ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้คุณบอกว่ามารับวิญญาณ...วิญญาณใคร!”

  ยมทูตไม่ได้ตอบคำถามแต่จ้องมองมาที่ผม

  “นี่ผมตายแล้วเหรอ”

  “ที่จริงคุณยังไม่ถึงที่ตายวันนี้ ยังไม่ถึงฆาต”

  “ถ้ายังไม่ตายแล้วทำไมวิญญาณของผมจึงหลุดออกจากร่าง คนที่ยังไม่ตายวิญญาณจะออกมาเร่ร่อนแบบนี้ได้ยังไง”

  “มันเป็นอุบัติเหตุที่นาน ๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง”

  “อะไรนะ!”

  “เรื่องวุ่น ๆ เกิดขึ้นได้ทุกที่ เรื่องนี้ก็เช่นกัน”

  “หา!” ผมทำหน้าเหวอไป

  เป็นความผิดพลาดของยมทูตแต่เป็นคราวซวยของผมโดยแท้ ทำไมต้องเป็นผมด้วย...ทำไม

  “แต่เพราะความผิดพลาดเราจึงไม่พาตัวคุณไปในที่ ๆ ควรไป ในเมื่อยังไม่ถึงเวลาของคุณ แต่ต้องมาเป็นแบบนี้เพราะความผิดพลาดของคนอื่น ฉะนั้นมีสองทางให้คุณเลือก ซึ่งคุณต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง”

  “อธิบายมา”

  “แค่ทำตามที่แนะนำไปจากโลกนี้ซะ”

  “จะบ้าเหรอ! นั่นหมายถึงผมตายน่ะสิ ไม่เอาหรอก แล้วทางเลือกที่สองคืออะไร”

  “คุณต้องหาร่างของตัวเองให้พบคุณถึงกลับไปได้”

  “ผมเลือกวิธีนี้”

  “ฟังให้จบค่อยตัดสินใจดีไหม”

  “ก็พูดมาสิ”

  “นอกจากต้องหาร่างของตัวเองให้พบแล้ว คุณจะต้องกลับคืนร่างเดิมให้ได้ภายในเก้าสิบวัน ถ้าทำไม่ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ผมก็จะมารับวิญญาณของคุณไปในที่ ๆ ควรไปเมื่อครบวาระของคุณ มันขึ้นอยู่กับคุณด้วย ตอนนี้คุณยืนอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย ถ้าคุณทำสำเร็จทันเวลา มันก็คุ้มค่าสำหรับคุณที่จะได้อยู่บนโลกนี้อีกครั้ง”

  “ผมเลือกวิธีนี้”

  “ได้สิทธิ์ตามนั้น สิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ คุณจะไม่สามารถจดจำเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวเองได้ ไม่รู้ว่าตัวเป็นใคร ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อนามสกุลของตัวคุณเอง”

  “ยากไปอีก แล้วผมจะหาร่างของผมเจอได้ยังไง”

  “นั่นมันเป็นปัญหาของคุณ คุณต้องเป็นคนไปหาคำตอบนี้ด้วยตัวเอง”

  “บอกใบ้ให้หน่อยก็ยังดีว่าผมควรเริ่มต้นที่ไหน”

  “ไม่มีคำใบ้ แต่ถ้าคุณทำได้มันก็คุ้มค่า น่าเสี่ยงนะว่าไหม”

  “แล้วผมจะได้พบคุณอีกไหม”

  “แน่ใจนะว่าอยากเจอ...ถ้าเราเจอกันอีก หมายถึงเวลาของคุณบนโลกใบนี้สิ้นสุดลงอย่างถาวร”

  “ไม่...ไม่...ผมไม่อยากเจอ”

  ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น

  “คงต้องไปแล้ว”

  “คุณจะไปไหน”

  “ไปปฏิบัติหน้าที่ โชคดีนะ”

  ยมทูตโบกมือให้ผม ก่อนจะหายวับไปกับตาอย่างไร้ร่องรอย

  “ปฏิบัติหน้าที่...หมายความว่ามีคนตาย...แต่จะเป็นใครก็ช่างหัวมันเถอะ ตอนนี้ผมต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน”

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down