ซูโม่หว่าน ทหารรุ่นลูกที่มีพ่อแม่เป็นทหารในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ระหว่างการฝึกรบภาคสนาม เธอบังเอิญทะลุมิติมาเป็นคุณหนูรองบุตรอนุในจวนแม่ทัพ เธอสู้ในสนามรบเป็นเวลาสองปี แต่สิ่งที่ได้รับคือการทรยศเท่านั้น จากนั้นทะลุมิติมาเจ้าของร่างเดิมโดนพี่สาวแย่งคนรักก็แล้วไป ยังถูกบังคับให้แต่งงานกับท่านอ๋องเทพสงครามขาพิการ เธอจะยอมแพ้พ่ายต่อโชคชะตาอย่างง่ายดายหรือไม่ เธอไปสู้ในสนามรบ หรือทำอาหารในห้องครัว จัดการเรื่องความสัมพันธ์ของท่านอ๋องพิการไปด้วย หาเงินทําธุรกิจไปด้วย พระชายามีความสามารถทุกอย่าง ท่านอ๋องเทพสงครามโดนว่าเกาะผู้หญิงกิน ท่านอ๋องโกรธมาก “โว้ย! ข้าไม่ใช่ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน!” วันหนึ่งในค่ำคืนที่พระจันทร์สีเงินอยู่บนท้องฟ้า ซูโม่หว่านมองร่างสูงตระหง่านที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวที่หน้าเตียง เธอเอามือกุมตู้โตวด้วยความประหลาดใจ “ท่านอ๋อง ขาของท่านไม่เป็นไรหรือ” หยักยิ้มเล็กน้อยและโน้มตัวไปข้างหน้า "เจ้าถามขาไหนของข้า"
"ผัวะ!"
เสียงดังก้องกังวาน
บนใบหน้าพลันปวดแปลบ ซูโม่หว่านลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ใบหน้าสวยสดงดงามของหญิงสาวที่สวมชุดผ้าไหมแพรหรูหรา พร้อมกับใบหน้าที่แต่งแต้มอย่างละเมียดละไมสะท้อนอยู่ในดวงตา
เมื่อเห็นนางตื่น หญิงสาวก็แสยะยิ้มอย่างร้ายกาจ
"โธ่ ร่างกายอ่อนแอบอบบางเช่นนี้ จะตบแต่งกับฉู่อ๋องได้อย่างไรกัน? เป็นคางคกแต่อยากกินเนื้อหงส์! ถุย! "
บนใบหน้ามีอาการปวดแสบปวดร้อน ซูโม่หว่านรู้สึกมึนศรีษะเล็กน้อย
เดิมทีเธอเป็นทหารรุ่นลูกที่มีพ่อแม่เป็นทหารในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ระหว่างการฝึกรบภาคสนามเมื่อสองปีก่อน เธอบังเอิญทะลุมิติมายังสถานที่ซึ่งเรียกว่าแคว้นอวิ๋นโม่แห่งนี้โดยไม่คาดคิด กลายเป็นคุณหนูรองบุตรอนุในจวนแม่ทัพ
หญิงสาวที่แต่งหน้างามเลิศดุจมัจฉาจมวารีปักษีตกนภาตรงหน้าเธอคนนี้ เป็นบุตรฮูหยินเอกในจวนแม่ทัพ พี่สาวของเธอ ซูฮว่าเยวี่ย
แม้ว่าซูฮว่าเยวี่ยจะเกิดก่อนเธอเพียงแค่เค่อเดียวเท่านั้น
ซูโม่หว่านแตะหน้าผากที่เจ็บแปลบ สัมผัสได้ถึงความเหนียวหนืดเปียกๆ เมื่อเอามือลงถึงได้เห็นว่าเป็นปื้นสีแดงอย่างน่าตกใจ!
ลงมือได้โหดเหี้ยมขนาดนี้ ซูฮว่าเยวี่ยกล้าดียังไง?
ไม่รู้จริงๆ หรือว่าเธอกำลังจะแต่งงานในอีกสองวันข้างหน้านี้แล้ว?
"น้องข้า เหตุใดเจ้าถึงได้จ้องพี่เขม็งแบบนั้นเล่า? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่เสียหน่อย! ชุนเหมยเจ้าว่าใช่หรือไม่? " ซูฮว่าเยวี่ยกล่าวกับสาวใช้ที่ยืนข้างนางด้วยรอยยิ้มนุ่มนวลน่ารัก
เห็นได้ชัดว่าสาวใช้ที่ชื่อชุนเหมยนึกไม่ถึงว่านายของตนจะลงมือได้หนักถึงเพียงนี้ พลันตะลึงงัน แล้วรีบร้อนตอบกลับไปว่า "ใช่ๆๆ ! นี่ล้วนเป็นเพราะคุณหนูรองซุ่มซ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือจนได้แผลเอง! ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหนูใหญ่เลยเจ้าค่ะ! "
ซูโม่หว่านมองดูนายบ่าวสองคนที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก็หัวเราะออกมาในทันที
ราวกับว่ามิอาจเข้าใจว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เหตุใดนางยังคงหัวเราะออกมาได้ ซูฮว่าเยวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงชิงชังว่า "เจ้าหัวเราะอันใด?! "
ซูโม่หว่านเหลือบมองไปที่นายบ่าวสองคนนั้นแวบหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ซูฮว่าเยวี่ย"
ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยคำเตือนอย่างประจักษ์ชัดแจ้ง
พี่สาวคนนี้ไม่ลงรอยกับตัวเองมาโดยตลอด แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยปิดบังความรังเกียจและความดูถูกที่มีต่อเธอทั้งต่อหน้าและลับหลังเลย
แต่อย่างไรก็ตาม ซูฮว่าเยวี่ยไม่กล้าลงไม้ลงมือกับเธอมาก่อนเลย
"โธ่ ชุนเหมย เจ้าดูสิว่าคุณหนูรองหัวกระแทกจนเอ๋อไปแล้วใช่หรือไม่? นี่นางจำพี่สาวคนนี้ไม่ได้แล้วหรืออย่างไร? " ซูฮว่าเยวี่ยแสร้งกล่าวด้วยความประหลาดใจ
ทันทีที่พูดจบ นางก็ถอยหลังไปครึ่งก้าวเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของซูโม่หว่าน
ซูโม่หว่านไม่สนใจ ขมวดคิ้วมองไปรอบๆ ถึงได้ตระหนักว่าตัวเองนอนแผ่อยู่บนพื้น ขณะกำลังคิดจะหยัดกายลุกขึ้น ทันใดนั้นรองเท้าปักลายดอกสีแดงงดงามประณีตข้างหนึ่งก็ยื่นมาถึงตรงหน้า แล้วก็เตะเข้าที่หัวไหล่ของเธอก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้!
ร่างที่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้น พริบตาเดียวก็ล้มลงไปที่พื้นอีกครั้ง!
ซูฮว่าเยวี่ยมองลงไปที่ซูโม่หว่านที่ถูกเตะลงไปกองที่พื้น ความสุขอย่างไร้ขีดจำกัดฉายวาบอยู่ในดวงตา!
"หึ! ดูเหมือนว่าน้องข้าจะมองเห็นสถานการณ์ของตนเองไม่ชัดแจ้ง! ไม่เป็นไรข้าจะบอกให้เจ้าก็ได้ ท่านพ่อรับปากจะให้ข้าตบแต่งเข้าตำหนักฉู่อ๋องแล้ว ฉะนั้นเจ้าจะไปไหนก็ไปอย่ามาเกะกะลูกตาแถวนี้! "
อะไรนะ ! ให้ซูฮว่าเยวี่ยแต่งเข้าตำหนักฉู่อ๋อง?
ความงงงวยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูโม่หว่าน คนที่หมั้นหมายไว้กับตำหนักฉู่อ๋องคือเธอชัดๆ !
ชั่วขณะหนึ่งซูโม่หว่านไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ก่อนหน้านี้ที่คนจากตำหนักฉู่อ๋องมาทาบทามสู่ขอที่จวน บิดาก็อนุญาตให้เธอตบแต่งกับฉู่อ๋องแล้วชัดๆ !
เมื่อคิดจะยันพื้นด้วยมือ ถึงได้ตระหนักว่าตัวเองไม่สามารถออกแรงได้เลยแม้แต่นิดเดียว!
สีหน้าของซูโม่หว่านพลันมืดครึ้มลง
ลักษณะเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเธอถูกวางยาพิษให้ร่างกายอ่อนกำลัง มิน่าล่ะซูฮว่าเยวี่ยถึงได้กล้าลงไม้ลงมือกับเธอ!
“ซูฮว่าเยวี่ย เจ้าแอบทำอะไรอย่างบางลับหลังกับข้าตั้งแต่เมื่อใด? ”
สายตาของเธอโหดเหี้ยมดุร้าย ซูฮว่าเยวี่ยรู้สึกหวาดกลัวไปชั่วขณะจนก้าวถอยหลังไปสองก้าวก่อนจะยืนอย่างมั่นคง "น้องสาวที่แสนดีของข้า เจ้าคิดจะปรักปรำพี่หรือนี่ คนที่แอบทำอะไรกับชาของเจ้าไม่ใช่พี่เสียหน่อย แต่เป็นมารดา เพียงแต่ว่า……"
ซูฮว่าเยวี่ยเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอย่างมุ่งร้ายว่า "นี่คือสิ่งที่บิดาอนุญาตเป็นนัยๆ แล้ว! เจ้าก็ยอมรับชะตากรรมอย่างเชื่อฟังเถิด! "