About
Table of Contents
Comments

  รถกระบะโฟวิลสี่ประตู เคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังประจำจังหวัด เมื่อสายรายงานว่า 'เหยื่อ' มาถึงแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้ม ก่อนจะพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เพิ่งจะบ่ายสามโมงกว่าๆ แต่บรรยากาศ รอบๆกลับดูเหมือนหกโมงเย็น คงเป็นเพราะฝนที่เพิ่งเทกระหน่ำลงมา เลยทำให้ดูมืดครึ้มไปทั่วบริเวณ

  [สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย]

  ร่างบอบบางสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เดินลงมาจากรถทัวร์ เมื่อกระเป๋ารถประกาศให้ทราบว่าถึงจุดหมายปลายทางแล้ว มือบางควานหามือถือ ที่กำลังสั่นในกระเป๋าสะพายใบเล็ก เพื่อกดรับสาย เพราะเธอปล่อยให้มันสั่นมาแบบนี้มาพักใหญ่ๆแล้ว

  "ค่ะแม่ ป่านขึ้นเครื่องคืนพรุ่งนี้ค่ะ"ตอบปลายสาย ก่อนจะต้องรีบยกมือปิดมือถือ เมื่อมีเสียงเรียกผู้โดยสารดังแทรกเข้ามา

  "เกือบไปแล้ว"ลันลดาเป่าลมออกจากปาก รู้สึกโล่งใจ เมื่อปลายสายไม่สงสัยอะไร ก่อนจะคลายนิ้วที่ไขว้ไว้ด้านหลังออกจากกัน

  "ขอโทษนะคะ"รู้สึกผิด ที่ต้องโกหกมารดาคำโต

  มือบางยกมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะพิมพ์ชื่อสถานที่ ที่ต้องการไปเพื่อดูระยะทาง 'ไร่แสงตะวัน' คือสถานที่นั้น เพราะตอนนี้พ่อแม่และพี่สาวเธออยู่ที่นั่น

  กำหนดการเดินทาง มาเชียงรายของลันลดา คือวันพรุ่งนี้ แต่เพราะความซุกซน จึงทำเธอเก็บกระเป๋าผ้าขึ้นรถทัวร์มาตั้งแต่เมื่อคืนวาน การเดินทางยาวนานไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกเพลียเลยสักนิด เพราะเธอตื่นเต้น ที่จะได้ไปเซอร์ไพรส์ครอบครัว

  "ต้องหารถนั่งเข้าไป"พูดกับตัวเอง ก่อนจะมองหารถรับจ้างที่จอดอยู่บริเวณนั้น

  "ลุงคะๆ ไปไร่แสงตะวันเท่าไหร่คะ"ร้องถามเมื่อเดินมาถึงรถคันแรก

  "โอ้ย! ป่านนี้แล้วไม่ไปหรอก ไปถามคันอื่นไป๊"คนขับรถปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง

  "อ้าว..."ลันลดางงหนัก เมื่อถูกคนขับกระทำกิริยาแบบนั้นใส่ มันเสียมารยาทมากเลยนะลุง หญิงสาวตำหนิผู้ชายคนนั้นในใจ

  "พี่คะๆ ไปไร่แสงตะวันเท่าไรคะ"ลันลดาถามรถคันที่สอง ก่อนจะต้องอึ้ง เมื่อคำตอบที่ได้เหมือนกับคันแรกไม่มีผิด ไร้มารยาทหญิงสาวสะบัดหน้า แล้วเดินไปถามรถคันถัดไป

  ร่างบางยกมือขึ้นเกาหัว เมื่อถามมาตลอดทาง แต่ถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ไม่มีรถคันไหนไปส่งเธอสักคัน คนเหล่านั้นให้เหตุผลว่า ฝนตกถนนลื่น อากาศก็มืดครึ้ม จึงไม่มีใครอยากขับรถขึ้นเขา

  "ก็ไม่ได้อยู่นอกแผนที่นี่ ไปยากเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ"พูดกับตัวเอง เมื่อแบกกระเป๋าเดินไปยังรถสองแถวคันที่จอดถัดมา ขอให้คันนี้ตกลงด้วยเถอะ เพราะไม่อย่างนั้น เธอคงต้องค้างคืนในตัวเมืองแน่นอน

  "พี่คะๆพี่ช่วยไปส่งที่ไร่แสงตะวันหน่อยได้ไหมคะ" ลันลดาร้องถาม เมื่อเดินมาถึงตัวรถ

  "ป่านนี้แล้วไม่ไปหรอก"เสียงแหบพร่าของคนขับรถที่บอกปฏิเสธ ทำให้ลันลดาหน้าเสีย เพราะตอนนี้ไม่มีรถเหลือให้ถามอีกแล้ว นี่คือคันสุดท้าย

  "พี่คะช่วยหนูหน่อยได้ไหม พอดีหนูมีธุระต้องไปที่นั่นค่ะ"ลันลดาลอบเบะปากให้ตัว เมื่อใช้เสียงสองอ้อนคนขับรถ คงไม่เป็นไร เขาคงไม่คิดว่าเธออ่อยมั้ง

  ดวงตาคมเข้มภายใต้กรอบแว่นตาสีดำ มองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจดเท้า คุณหนูลันลดา ลูกสาวคนเล็กของคุณประกร คนที่เคยเป็นคู่หมั้นของพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้ม เมื่อนึกว่าโชคดีของคุณเผ่าแล้ว ที่ไม่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต เพราะรู้สึกไม่ถูกชะตา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น พอได้มาเจอใกล้ๆ ยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับเจ้านายของเขาจริงๆ

  "จะไปที่ไร่แสงตะวันทำไม"ถามกลับไปอย่างนั้น เพราะเขารู้คำตอบของเธออยู่แล้ว

  "ไปธุระค่ะ"หญิงสาวตอบรวมๆ จะให้เธอบอกว่าไปเที่ยวเล่น ก็ไม่ใช่ที่

  "หึ!"อาคมคำรามในลำคอ ไปธุระหรือจะไปทำให้คนที่นั่นไม่สบายใจกันแน่ อย่างน้อยๆก็นายหญิงคนหนึ่ง ที่ต้องลำบากใจกับการมาของเธอ

  อาคมมองหน้าหญิงสาวอีกครั้ง พร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง ถ้าการไปที่ไร่ของเธอทำให้นายหญิงลำบากใจ งั้นเธอก็ไม่ต้องไป

  "ขึ้นมาสิ เดี๋ยวไปส่งให้ก็ได้ เห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว นี่มันก็จะมืดแล้ว ถือว่าช่วยเอาบุญ"ลันลดายิ้มหวาน เมื่อผู้ชายตรงหน้าตอบรับคำขอของเธอ

  "ขอบคุณมากนะพี่ ขอบคุณจริงๆ ถ้าไม่ได้พี่หนูต้องแย่แน่ๆ ขอบคุณน๊า"หญิงสาวร้องบอกด้วยความดีใจ พร้อมกับยกมือไหว้เขา ก่อนจะสะพายเป้เดินไปด้านหลังรถ

  "นั่งข้างหน้าด้วยกันก็ได้ ฝนยังลงเม็ดอยู่ นั่งข้างหลังเดี๋ยวเปียก"น้ำเสียงที่ส่งมาด้วยความอาทร ทำให้ร่างบางหันไปยิ้มหวานให้อีกครั้ง ถึงแม้จะมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด เพราะมีทั้งหมวก ทั้งแว่นตา แต่ลันลดาก็รับรู้ได้ว่า เขาไม่ใช่คนเลวร้าย

  "ขอบคุณอีกครั้งนะคะ งั้นหนูเอาเป้วางไว้ข้างหลังก็ได้ เดี๋ยวมันเกะกะพี่ ลันลดาบอกก่อนจะรีบวิ่งไปหลังรถ ปลดเป้ลงจากบ่า แล้ววิ่งมานั่งหน้ารถอย่างเร็วเพราะเกรงใจคนที่ติดเครื่องยนต์รออยู่ รถสองแถวเคลื่อนตัวออกไป พร้อมกับอาการมึนงง ของชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่บริเวณนั้น

  "คุณคมจะทำอะไรวะ ไหนว่าจะมาดูหน้าอย่างเดียวไง"

  "คงพาไปส่งที่ไร่แสงตะวันมั้ง"ใครบางคนในกลุ่มตอบคำถามเพื่อน

  "อืม...ถ้าแค่นั้นก็ดีไป"

  "มึงกำลังคิดว่า..."

  "กูอาจจะระแวงไปเอง"

  "เราต้องโทรบอกพ่อเลี้ยงไหมวะ"

  "มึงอยากตกงานก็เอาสิ"

  สิ้นสุดการสนทนา เมื่อเสียงมือถือของใครบางคนดังขึ้น

  "ครับ...เข้าใจแล้วครับ"ณรงค์กดวางสาย ก่อนจะหันมาหาเพื่อน

  "เรื่องนี้ห้ามให้ถึงหูพ่อเลี้ยงเด็ดขาด"ณรงค์กำชับทุกคนอีกครั้ง

  คนกลุ่มนั้นพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะแยกย้ายไปยังรถที่จอดไว้ใกล้ๆกับสถานีรถประจำทาง

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down