Home/ รักต้องห้ามในฝัน Ongoing
เธอถูกแม่และน้องสาววางแผนให้นอนค้างคืนกับคนที่เรียกว่า "พี่เขย"
About
Table of Contents
Comments

“ร้อนจัง...” ผู้หญิงในอ้อมแขนครวญคราง มือเรียวของเธอกำลังจะฉีกทึ้งคอเสื้อตัวเอง ใบหน้าของเธอแดงก่ำอย่างทรงเสน่ห์ และริมฝีปากสีแดงชาดของเธอก็ยิ่งน่าดึงดูดเพราะมันแห้งเผือด

ใบหน้าแดงซ่านของเธอถูกับอกแกร่งของชายหนุ่ม เธอส่งเสียงว่ากำลังรู้สึกสบายตัว

เหลิ่งจ๋วยเย่ดึงแผ่นกั้นด้านหน้าเพื่อแยกบริเวณกับที่นั่งคนขับ

จั่วเฟิงที่นั่งอยู่แถวหน้าเลิกคิ้ว เขาอยากจะล่องหนได้จริงๆ

เพราะความรู้สึกว่างเปล่าในร่างกายของเธอเริ่มรุนแรงขึ้น เวินซินที่กำลังเมารู้สึกต้องการทำอะไรบางอย่างโดยสัญชาตญาณ

เธอกางขาออกและนั่งอยู่บนท่อนขาของเหลิ่งจ๋วยเย่ เธอเงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย และใบหน้านุ่มนวลสีชมพูระเรือปกคลุมไปด้วยเลือดฝาดสีแดงดูน่าเอ็นดู ดูราวกับดอกกุหลาบที่กำลังผลิบานซึ่งงดงามเหลือเกิน

ดวงตากึ่งคลอน้ำของเธอมีเสน่ห์อย่างคนที่ยังไม่โตดีนักที่ปลายคิ้ว และใบหน้าที่บอบบางของเธอก็มากพอจะดึงดูดให้ผู้คนมองมาที่เธอ

ผมสลวยของเวินซินตกลงมาบนคอเสื้อที่เปิดอ้าอยู่เล็กน้อยของเหลิ่งจ๋วยเย่ มันทำให้เขารู้สึกจั๊กจี้

ดวงตาของเหลิ่งจ๋วยเย่มืดครึ้มลง เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอที่กำลังลูบไล้อยู่ที่หน้าอกเขา "คุณผู้หญิง เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่?"

“ฉันรู้สึกไม่สบายตัวจัง...คุณช่วยฉันได้ไหม?” เวินซินไม่รู้ตัวว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร เธอแค่อยากเป็นอิสระและดับไฟในใจลงสักที

“อยากให้ผมช่วยยังไงล่ะ?” เหลิ่งจ๋วยเย่พูดเสียงต่ำและเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของเธอ

"ทำยังไง?" เวินซินนึกอะไรไม่ออกเลย

ทันใดนั้นเหลิ่งจ๋วยเย่ก็เอื้อมมือไปจับเอวผอมเพรียวของเธอ "อย่างนั้นเหรอ?"

เธอส่งเสียงร้องอย่างสบายกายทันที แต่แล้วเธอก็ผลักมือเขาออกอย่างนึกโมโห “อย่า...แตะต้องฉัน...”

“เธอไม่สบายตัวเหรอ? ถ้าไม่อยากให้ฉันแตะต้องตัวเธอ แล้วฉันจะช่วยเธอได้ยังไง?” เหลิ่งจ๋วยเย่แกล้งแหย่เธอ

"ไปให้พ้น!" หลังจากที่เวินซินพูดจบตัวเธอก็ลื่นลงล่าง เธอล้มลงไปนั่งที่หว่างขาของเหลิ่งจ๋วยเย่

ทันใดนั้นใบหน้าร้อนผ่าวของเธอก็อยู่ห่างจากขาของเหลิ่งจ๋วยเย่เพียงไม่กี่เซนติเมตร ขณะที่เธอรู้สึกเวียนหัวและสับสน เธอก็ใช้ขาของเขาเป็นพนักพิงและเอาหน้าไปซุกอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้าง

เหลิ่งจ๋วยเย่ขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจอย่างนึกสนุก ดวงตาลึกล้ำของเขาพร่าเบลอไปชั่วอึดใจ

จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปดึงตัวเธอขึ้น หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะสูญเสียการควบคุมตัวเองเสียก่อน

“ถ้าอยากให้ฉันช่วยก็อย่ามานึกเสียใจทีหลัง” เหลิ่งจ๋วยเย่พูดจบคำ ลมหายใจร้อนๆ ของเขาก็รดลงบนใบหน้าของเธอ

การเคลื่อนไหวของเขาทำให้หัวใจของเวินซินเต้นแรง

เวินซินมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเหลิ่งจ๋วยเย่อย่างเหม่อลอยและรู้สึกว่าริมฝีปากของเขากำลังจะจูบเธอ ขนตาของเธอสั่นเล็กน้อยแล้วเธอก็ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ

พอเขากอดเธอไว้แน่น กระแสไฟฟ้าก็แล่นไปทั่วร่างของเธอ

เธออดตัวสั่นและไร้เรี่ยวแรงไม่อยู่ ทำได้เพียงเอนตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา

เหลิ่งจ๋วยเย่ใช้นิ้วเรียวยาวเกี่ยวคางของเธอไว้ เขาก้มศีรษะและใช้ริมฝีปากบางของเขาจูบเธออย่างหนักหน่วง

กลิ่นอายของบุรุษเพศที่ไม่เหมือนใครเข้าครอบงำเธอ และหัวของเวินซินก็พลันว่างเปล่า

ระฆังเตือนดังขึ้นในใจที่กำลังสับสนของเธอ เธอพยายามผลักเขาออก แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ตอนที่เธอกดสองมือบนไหล่ของเขา

ลิ้นของเขาแทรกเข้าไปในปากเธอและเคลื่อนไปทั่วทุกตารางนิ้วในโพรงปากอย่างว่องไวเพื่อรับความหวานล้ำจากตัวเธอ

เหลิ่งจ๋วยเย่จูบเธออย่างรุนแรงจนเขารู้สึกร้อนไปทั้งตัว เขาลืมไปนานแล้วว่าตัวเองเคยจูบผู้หญิงมากี่คนแล้ว ทว่าในขณะนี้ ลมหายใจและท่าทีเขินอายของผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ต่อหน้าเขาทำให้เขารู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

เขาจูบริมฝีปากของเธอรุนแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัวราวกับว่าเขาพยายามที่จะดูดวิญญาณของเธอออก

แต่การจูบแบบนี้ยังห่างไกลจากที่จะทำให้เขารู้สึกพอใจอยู่อีกมาก

ฝ่ามือของเหลิ่งจ๋วยเย่ขยับขึ้นไปจนสุด

"โอ้..." เวินซินร้องออกมาด้วยความสับสน เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ความรู้สึกว่างเปล่าและชาหนึบในร่างกายแปลกมากจริงๆ

เธอพยายามผลักเขาออกไป แต่ดูเหมือนเธอจะต้องการมากกว่านี้

ในตอนนี้เวินซินงดงามราวกับดอกกุหลาบที่กำลังผลิบาน

แก้มแดงระเรื่อบนใบหน้าทำให้ผิวของเธอดูอมชมพูขึ้นเรื่อยๆ ขนตาของเธอสั่นไหวเหมือนปีกผีเสื้อ ดูบอบบางมาก

เหลิ่งจ๋วยเย่พ่นลมหายใจ รู้สึกอึดอัดราวกับว่าร่างกายของเขากำลังจะระเบิด เขากัดริมฝีปากของเธอและกระซิบพูด "แม่สาวจอมซน"

"หืม?"

เวินซินกระพริบตาของเธออย่างอบอุ่นและชวนหลงใหล นี่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม

ในที่สุดเหลิ่งจ๋วยเย่ก็หมดความอดทน เขาคำรามใส่ผู้ช่วยที่อยู่ข้างหน้า "เรายังไม่ถึงโรงแรมอีกเหรอ?"

ในตอนนั้นเองรถก็หยุดกะทันหัน และจั่วเฟิงก็ตอบกลับ "เพิ่งมาถึงครับ" ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

เหลิ่งจ๋วยเย่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพาเวินซินออกจากรถด้วยแขนที่แข็งแรงและเดินผ่านล็อบบี้ของโรงแรมไปที่ลิฟต์ นี่เป็นโรงแรมของเขา เขาสามารถมาที่นี่ได้อย่างอิสระตามที่เขาต้องการ ยิ่งกว่านั้นก็คือไม่มีใครกล้าพูดนินทาอะไร

ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในห้องชุดพิเศษ เหลิ่งจ๋วยเย่ก็โยนเวินซินไปที่เตียงกลม วินาทีต่อมา เขาก็ฝังศีรษะตัวเองไปบนร่างของเธอ "โอ้..." เวินซินรู้สึกราวกับว่าถูกไฟฟ้าช็อต ร่างกายของเธอสั่นอย่างรุนแรงและดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา

"ปล่อยนะ...ไอ้สารเลว...ไปให้พ้น..."

เสียงที่นุ่มนวลของเธอฟังเหมือนคำเชิญเสียมากกว่าคำผลักไส เหลิ่งจ๋วยเย่หัวเราะเยาะ "เธอแน่ใจเหรอ?"

"ใช่..." เวินซินพูด

วินาทีต่อมา เหลิ่งจ๋วยเย่ก็กระซิบเสียงแหบแห้ง "สายเกินไปแล้ว"

......

ในตอนเช้ามีเสียงกรีดร้องดังผ่านมาจากห้องนอน

เวินซินวิ่งออกมาจากโรงแรมอย่างยุ่งเหยิง เธอไม่มีแรงแม้แต่จะร้องไห้ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ทำไมเธอถึงอยู่ในโรงแรม? เมื่อคืนเธอไปพบผู้ชายคนไหนมา?

โอ้พระเจ้า! ทำไมเธอถึงโชคร้ายได้ขนาดนี้?

เจอฝันร้ายติดต่อกันสองวันจนเธอกำลังจะเป็นบ้า

เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็เดินเข้าห้องน้ำด้วยความอับอายแล้วขัดล้างเนื้อตัว เมื่อมองไปที่รอยรักบนร่างกาย เธอก็รู้สึกอับอายมาก

เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? เธออยู่ที่บาร์แล้วเพิ่งดื่มน้ำผลไม้ไปแค่หนึ่งแก้ว ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้ว่าจากนั้นเกิดอะไรขึ้น? เธอจำได้แค่รางๆว่าเธอพบชายคนหนึ่ง แต่เธอจำรูปร่างหน้าตาของเขาไม่ได้

หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็กลับมาที่โซฟา ตอนนั้นเองโทรศัพท์ของเธอก็ดัง เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เป็นแฟนของเธอ ต้วนหยาง ที่โทรมาหา เธอรู้สึกดิ้นรนอยู่ในใจและคิดจะเลิกกับเขา

เธอไม่มีคุณสมบัติคู่ควรกับเขาอีกต่อไป

"สวัสดีค่ะ" เธอรับสายเสียงเบา

“ซินซิน ทำไมเธอไม่รับโทรศัพท์ผมล่ะ? เธอรู้ไหมว่าผมกังวลแค่ไหน?” เสียงโกรธๆ ของต้วนหยางดังมาจากอีกฝั่งหนึ่ง

เวินซินยิ้ม "ฉันสบายดี นายจะอยู่ที่อเมริกาอีกนานแค่ไหน?"

“ผมอาจจะกลับอาทิตย์หน้า เธอคิดถึงผมไหม? ซินซิน เธอจำที่สัญญากับผมครั้งที่แล้วได้ไหม?”

สีหน้าของเวินซินซีดนิดหน่อย เธอกัดริมฝีปากแล้วพูด "ต้วนหยาง ฉัน..."

“อย่ากลับคำเชียวนะ เราอยู่ด้วยกันมาสามปีแล้ว พวกเราก็ไม่ใช่เด็กๆ อีกแล้วด้วย ผมสาบานว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่ผมก็ทำอะไรเรื่องนี้ไม่ได้ ผมต้องการเธอนะ” เสียงของต้วนหยางแหบพร่า เผยให้เห็นถึงความปรารถนาอย่างชัดเจน

เวินซินกัดริมฝีปากด้วยสีหน้าเจ็บปวดและไม่รู้ว่าจะบอกเลิกกับเขายังไงดี

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอถูกเซี้ยหรานผู้เป็นน้องสาวใส่ร้าย และต้องนอนกับเหลิ่งจ๋วยเย่ที่เป็นน้องเขยของเธอ

วันนี้เธอนอนกับชายแปลกหน้าที่เธอพบในบาร์ เธอไม่เห็นหน้าชายคนนั้นอย่างชัดเจนด้วยซ้ำ!

เนื่องจากเธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อีกต่อไป เธอจึงอายเกินกว่าจะเผชิญหน้ากับแฟนหนุ่ม!

“ต้วนหยาง...”

“โอเค ผมดีใจที่เธอปลอดภัยดี รอผมกลับมานะ ซินซิน ผมคิดถึงเธอมาก” ต้วนหยางกลัวว่าเธอจะปฏิเสธ เขาจึงหยุดคำพูดเธอไว้เสียก่อน

“ไว้ค่อยคุยกันตอนนายกลับมานะ!” เวินซินถอนหายใจเล็กน้อย ใช่แล้ว เธอไม่สามารถพูดเรื่องเลิกลากับเขาผ่านทางโทรศัพท์ได้

พอวางสายโทรศัพท์ เธอก็ถูกโอบล้อมไปด้วยความเงียบงัน และนอนไม่หลับจนกระทั่งรุ่งสาง

เป็นเวลาสามวันติดต่อกันแล้วที่เธออยู่บ้านและไม่อยากจะทำอะไร นับประสาอะไรกับการเคลื่อนไหวร่างกาย

ประมาณสิบโมงเช้าของคืนที่สี่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพบว่าเป็นเซี้ยหรานที่โทรเข้า โทรมาตอนนี้ต้องมีแต่เรื่องไม่ดีแน่

พอเธอไม่รับสายก็มีข้อความเข้า “เวินซิน ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่บ้าน คนขับรถของฉันกำลังไปรับเธอ ลงมาข้างล่างซะ”

เวินซินกัดริมฝีปากแล้ววางสาย

เซี้ยหรานน้องสาวของเวินซินไม่สามารถมีลูกได้ เธอหลอกให้เวินซินนอนกับน้องเขยและต้องการให้เวินซินมีลูกให้เธอ แม้แต่แม่ของเวินซินก็ยังบังคับเธอให้ทำแบบนั้น

เธอแทบจะล้มลง

สักพักแม่ก็โทรมา ในที่สุดเธอก็หลับตาด้วยความสิ้นหวังและรับโทรศัพท์ "สวัสดีค่ะ"

“ซินซิน ลูกอยู่บ้านหรือเปล่า?”

"อยู่ค่ะ" เวินซินตอบกลับ

"คืนนี้จ๋วยเย่เมา นี่เป็นโอกาสดี ไปที่วิลล่าของหรานหรานซะนะ!"

หัวของเวินซินว่างเปล่านิดหน่อย เธอต้องการจะปฏิเสธ แต่เธอก็รู้ว่าแม้ว่าเธอจะปฏิเสธไปคืนนี้ แต่ในอนาคตก็ยังมีโอกาสจะเป็นแบบนี้อยู่อีก

เป็นการดีกว่าที่จะวางแผนตั้งครรภ์ให้เรียบร้อยให้เร็วที่สุดเพื่อที่เธอจะได้มีชีวิตเป็นของตัวเองสักที

เวินซินลงไปข้างล่าง คนขับรอเธออย่างอดทนและขับรถไปจนถึงวิลล่าของเซี้ยหราน ที่นี่เป็นวิลล่าอิสระที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์

เซี้ยหรานออกมาทั้งชุดนอน ดูเหมือนดอกไวโอเล็ตสีม่วงในท้องฟ้ายามค่ำคืน

“เธอมาซะที เธออาบน้ำหรือยัง?” เสียงของเซี้ยหรานฟังดูไร้อารมณ์

เมื่อมองไปที่เธอ จู่ๆ เวินซินก็รู้สึกสงสารเธอนิดหน่อย เธอต้องรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องยกผู้ชายที่เธอรักให้กับหญิงคนอื่นแน่ๆ!

"อาบแล้ว" เธอตอบ

“เขาอยู่ในห้องรับแขกชั้นสาม ไปได้แล้ว!” เซี้ยหรานพูดเร่งด้วยเสียงแหบแห้ง พยายามระงับความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down