Home/ ขยะลูก้าเกิดใหม่ Ongoing
ฉันเกิดใหม่ในวันที่ภรรยาและลูกสาวของฉันเสียชีวิตในกองไฟ
About
Table of Contents
Comments (1)

“ฉัน... ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า…”

ลูก้าตื่นขึ้นช้า ๆ ราวกับว่าเขาเพิ่งมีความฝันอันยาวนาน

ในความฝันนี้ เขาเพิ่งผ่านชีวิตที่สมบูรณ์และสมหวัง แต่น่าเศร้าที่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้น นั่นก็คือเขาเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเมื่ออายุแปดสิบปี

ในขณะที่เขาเสียชีวิต เขาเห็นตัวเองและญาติ ๆ ของเขาที่กำลังร้องไห้อยู่เคียงข้างเขา

ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาววาบขึ้นมา และเขาก็ยืนอยู่หน้าประตู

เขารู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่แตกต่าง ทุกอย่างเป็นเหมือนความฝัน แต่เขารู้ดีว่าความฝันนั้นไม่ชัดเจนนัก

เขาจำได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทุกนาทีและวินาที

ทุกช่วงเวลาจนถึงปัจจุบัน เขาแน่ใจว่าเขาได้เกิดใหม่แล้ว

ประตูที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นประตูกระท่อมที่เขาเคยอยู่มาก่อน!

ขณะที่เขามองไปที่ประตู มือที่ถือกุญแจสั่นเล็กน้อย ประตูบานนั้นค่อนข้างเก่า มันจึงส่งเสียงดังเอี๊ยดเมื่อเหวี่ยงเปิดออก

สิ่งแรกที่เขาเห็นคือลูกสาวของเขา ไอริส มิลเลอร์กำลังนั่งเล่นของเล่นรถไฟพลาสติกที่พังอยู่บนพื้น!

เธอเพิ่งอายุได้สี่ขวบ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อน ๆ แล้ว เธอตัวเล็กกว่ามากและค่อนข้างผอม

ทันทีที่เขาเห็นไอริส น้ำตาก็คลอเบ้า

เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นลูกสาวของเขาอีกครั้ง

ภรรยาและลูกสาวของเขาเสียชีวิตในกองไฟ ซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจลบเลือนสำหรับเขา ไม่ว่าเขาจะทำงานหนักเพียงใดหรือหาเงินได้มากเพียงใด รอยแผลเป็นนั้นก็ไม่มีวันหายไป

"พ่อ!"

เมื่อเห็นเขา เธอลุกขึ้นจากพื้นทันทีอย่างมีความสุขและกอดขาของเขา

เมื่อมองดูลูกสาวที่ผอมบางของเขา เขารู้สึกเจ็บปวดภายในใจอย่างเหลือทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นเสื้อผ้าเก่าซอมซ่อบนร่างเล็ก ๆ ของเธอ

เด็กคนอื่นในวัยเดียวกับเธอมีแก้มแดงก่ำและอ้วนจ้ำม่ำ แต่ใบหน้าของเธอกลับซูบซีดและเหลืองเล็กน้อย

ทั้งหมดเป็นเพราะขาดสารอาหาร!

ลูก้าโอบลูกสาวของเขาไว้ในอ้อมแขนแน่นขณะที่นั่งยอง ๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม

สำหรับผู้ชายที่จะสร้างปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ในธุรกิจที่จะเกิดขึ้นต่อไป น้ำตาเหล่านี้เป็นเรื่องน่าละอาย

"่พ่อขอโทษ..."

อย่างไรก็ตาม เขาหยุดไม่ได้

ไอริสไม่รู้ว่าพ่อของเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง แต่เธอปลอบเขาด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลว่า "คุณพ่อ คนดี อย่าร้องไห้นะคะ"

น้ำตาของเขาเอ่อล้นออกมาเมื่อเขาได้ยินเสียงอันไพเราะของลูกสาว

“พ่อคะ หนูจะไม่ไปโรงเรียนอีกแล้ว อย่าร้องไห้นะคะ ตกลงไหม” เธอปลอบโยนพร้อมกับพิงกับศีรษะของเขา

แม้จะมีคนบอกกันว่าคำพูดของเด็ก ๆ ไม่มีอันตราย แต่เขาก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า

เพราะเขารู้ดีว่าตอนนั้นเขาเคยเป็นจอมวายร้ายมากแค่ไหน

เขาดื่มและเล่นการพนันทั้งวัน เมื่อเขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเขาจะขอเงินจากภรรยาของเขา ถ้าเขาไม่ได้เงิน เขาก็จะบ้าคลั่ง

วันก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ ภรรยาของเขาต้องการให้ไอริสไปโรงเรียนอนุบาล แต่เขาบอกว่าการเรียนเป็นเรื่องสิ้นเปลืองเงิน

เป็นผลให้ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง

ไอริสอายุเพียงสี่ขวบ แต่เธอมีเหตุมีผลมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แม้ว่าเธอจะอิจฉาที่เด็กคนอื่น ๆ ได้ไปโรงเรียน แต่เธอก็รู้ว่าแม่กับพ่อทะเลาะกันเพราะพวกเขาต้องจ่ายเงินค่าเล่าเรียน

แม้ว่าเธอจะอยากไปจริง ๆ แต่เธอก็เงียบไปเพราะไม่ต้องการให้พ่อแม่ทะเลาะกันเพราะเธอ

นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายกย่องสำหรับเด็กอายุ 4 ขวบที่ทำเช่นนี้ 

เขาอุ้มลูกสาวขึ้นมาพร้อมกับเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเขา “พ่อสัญญาว่าพ่อจะทำงานหนักเพื่อหาเงิน แล้วพ่อจะพาลูกไปโรงเรียนอนุบาลพรุ่งนี้ ตกลงไหม”

"จริงหรอคะ?" ดวงตาของเธอเป็นประกายในทันที แต่ไม่นานนัก เธอก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างกังวล “แต่เราไม่มีเงินนี่คะ! หนูไม่อยากให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันค่ะ”

“ไม่เป็นไรไอริส พ่อจะไม่ทะเลาะกับแม่อีกแล้วนะ” เขาสัญญาอย่างเคร่งขรึม

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอก็เอียงศีรษะน้อยๆ อย่างไม่เชื่อ แล้วเธอก็หอมแก้มเขาอย่างแรง

แล้วจู่ ๆ ประตูก็เปิดออก เมื่อเขาเห็นคนที่เข้ามา ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านเล็กน้อย

ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าประตูมีผมยาวประบ่า เธอสวมเสื้อผ้าแบบคนทำงาน ดูมีความสามารถและกระฉับกระเฉงมาก

อาจกล่าวได้ว่าเธอดูดีทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจมูกและดวงตาของเธอ ซึ่งทำให้ใบหน้าของเธอดูโดดเด่นสะดุดตา

แน่นอน ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวของเธอก็คือการแสดงออกที่เย่อหยิ่งและค่อนข้างเย็นชา ซึ่งทำลายรูปลักษณ์ที่งดงามของเธอไปบ้าง

เธอคือเอมิเลีย คลาร์ก ภรรยาของลูก้า!

และยังเป็นคนร้ายที่จุดไฟเผาบ้านของครอบครัวด้วย!

อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยเกลียดเธอเลย!

ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาเห็นแม่และลูกสาวกอดกันแน่นในกองเพลิงนรกที่โหมกระหน่ำ ความทรงจำที่หลอกหลอนเขามาจนถึงวาระสุดท้ายของเขา

หลายครั้งที่เขาคิดว่าเธอสิ้นหวังและเกลียดชังเขามากเพียงใดจนกระทั่งในที่สุดเธอเลือกที่จะฆ่าตัวตายเพื่อจบชีวิตของเธอ

ตอนนี้ เธอกำลังถือถุงที่มีกลิ่นจาง ๆ ของอะไรอร่อย ๆ อยู่ในมือ

เขาเดาได้อย่างง่ายดายว่าน่าจะเป็นเป็ดย่างที่ลูกสาวของเขาใฝ่ฝันอยากจะกิน

แม้ว่าจะชิ้นละ 80 เท่านั้นแต่ลูกสาวของเขาได้กินเพียงครั้งเดียวตลอดชีวิตของเธอ

ในกระเป๋าของเอมิเลียมีไฟแช็กที่เธอเตรียมไว้ น้ำมันเบนซินพร้อมแล้วและเก็บไว้ในตู้ที่ห้องครัว

เมื่อไอริสได้กลิ่นหอม ๆ เธอก็ผละออกจากวงแขนของลูก้าทันทีและรีบวิ่งไปหาเอมิเลีย “แม่คะ นี่อะไรคะ”

“นี่ไม่ใช่เป็ดย่างที่หนูอยากทานมาโดยตลอดอย่างงั้นหรอ” รอยยิ้มที่สงวนไว้เป็นพิเศษสำหรับลูกสาวของเธอปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเอมิเลีย

แต่ถึงอย่างนั้น ดูเธอจะฝืนยิ้มเสียมากกว่า

“พ่อคะ ดูนี่สิ แม่ซื้อเป็ดย่างมา” ไอริสหันกลับมาและตะโกนบอกลูก้าด้วยความดีใจ

เขาเข้ามาและมองดูภรรยาที่ยังมีชีวิตอยู่ของเขา เขาอยากจะกอดเธอและบอกเธอว่าเขาคิดถึงเธอมากแค่ไหน

แต่เมื่อเขาเห็นความรังเกียจในสายตาของเอมิเลีย หัวใจของเขาก็รู้สึกขมขื่น

นานมาแล้วที่พวกเขาเริ่มแยกห้องนอนกัน

ท้ายที่สุดเขาเคยเมากลับมาทุกวันและมีแนวโน้มที่จะทุบตีเธอ

เอมิเลียไม่ต้องการให้เรื่องนั้นส่งผลกระทบต่อลูกสาวของเธอ

ไอริสหยิบเป็ดย่างจากเอมิเลียด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ “แม่คะ ขอบคุณนะคะที่ทำงานหนักเพื่อพวกเรา”

ยิ่งลูกสาวของเธอฉลาดและน่ารักมากขึ้นเท่าไหร่ เอมิเลียก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น

เพราะเธอรู้ว่าอีกไม่นานเธอจะทำอะไรโหดร้ายแค่ไหน!

หลังจากวางเป็ดย่างลงบนโต๊ะ จู่ ๆ ไอริสก็หันไปหาเอมิเลีย “แม่คะ พ่อบอกว่าพรุ่งนี้จะพาหนูไปโรงเรียนอนุบาลค่ะ”

เมื่อมองไปที่ลูกสาวของเธอที่มีความสุข ดวงตาของเอมิเลียก็เต็มไปด้วยความโกรธ “คุณคิดว่าตลกนักหรอที่จะโกหกเด็กน่ะ”

ทะเลาะกันทีไรก็เป็นเพราะเรื่องเงินเป็นส่วนใหญ่!

เพราะเมื่อก่อนเขาบอกเสมอว่าพรุ่งนี้จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่เมื่อพรุ่งนี้มาถึง เขาก็เป็นคนที่เปลี่ยนไป

ไม่เพียงแต่เธอที่ถูกหลอกมาโดยตลอด แม้แต่ไอริสก็ยังถูกหลอกหลายครั้ง

แม้ว่าจะเป็นเพียงการเดินทางไปสวนสนุก เขาก็ผิดสัญญานั้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

ในหัวใจของเอมิเลีย ลูก้าไม่มีความน่าเชื่อถือเลย

เธอไม่ได้แค่ผิดหวัง แต่เธอรู้สึกสิ้นหวัง!

แต่ครั้งนี้ลูก้าไม่ได้โต้เถียงเรื่องนี้ “คืนนี้กินข้าวโอ๊ตกันเถอะ ใช้เวลานานอีกหน่อย”

เขารู้ว่าท้องของเอมิเลียไม่ดี และข้าวโอ๊ตก็กินง่าย

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down