About
Table of Contents
Comments

  อากรเป็นนักเรียนใหม่ของชั้น ม.1 เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ได้เพียงสองอาทิตย์ เนื่องจากพ่อแม่เลิกกัน แล้วเขาจำเป็นต้องย้ายตามพ่อมาอยู่ ในขณะที่น้องสาวอายุ 6 ขวบได้อยู่กับแม่ แม่ที่เขารักและอุ่นใจที่จะอยู่ด้วยมากกว่าพ่อ

  เด็กชายแบกเอาความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและเครียดมาที่โรงเรียนใหม่ด้วย ช่วยไม่ได้ที่เขาจะมนุษย์สัมพันธ์ไม่ดี ในเมื่อเด็กอย่างเขาต้องมารับผลกระทบจากการกระทำและตัดสินใจของพวกผู้ใหญ่ โรงเรียนนี้เขาไม่ได้เลือก ที่นี่เขาไม่ได้เลือก ชีวิตแบบนี้เขาก็ไม่ได้เลือกเช่นกัน อากรคิดเพียงก็ทนๆเรียนๆอยู่ๆให้มันผ่านไปวันๆก็พอ ไม่ต้องสนใจอะไรใคร ไม่ต้องคิดอะไรมากนั่นยิ่งทำให้รู้สึกว่าน่าโมโห ในเมื่อเขาไม่ยุ่งวุ่นวายกับใครแล้ว แต่ก็ยังไม่วายถูกรังแกอีกจนได้

  ตั้งแต่วันแรกแล้ว อากรถูกให้ไปนั่งเรียนอยู่ที่โต๊ะหลังสุด โดยโต๊ะที่เขานั่งทั้งเก่า โทรมและโยก อากรนั่งลงบนเก้าอี้ เก้าอี้ก็พังโครมลงทันทีจนตัวเขาร่วงลงก้นกระแทกพื้น ไม่มีใครหัวเราะเยาะหรือล้อเลียน เพราะครูยืนอยู่หน้าห้อง แต่ก็ยังได้ยินเสียงบางคนหัวเราะคิกคักเบาๆ ไม่มีใครลุกมาช่วย ครูวิ่งมาจากหน้าห้องและเรียกนักเรียนชายอีกสองสามคนให้มาช่วยพยุง แต่อากรรีบลุกเองและบอกว่าไม่เป็นไร พลางยกเก้าอี้ที่พังไปโยนไว้หลังห้อง แล้วคว้าเป้กับหนังสือเรียนเดินไปนั่งที่พื้นหน้าห้อง โดยไม่สนใจใครเขาเชื่อแน่นอนว่ามีคนตั้งใจแกล้งเขา

  วันต่อมาอากรมาโรงเรียนแต่เช้า ลากโต๊ะตัวที่โยกไปไว้หลังห้อง แล้วพยายามดึงโต๊ะอีกตัวที่ตั้งอยู่ออกมาแทน แต่ดึงอยู่นานก็ดึงไม่ออก เหมือนมีคนดึงอยู่หรือไม่ก็ติดอะไรสักอย่าง โต๊ะตัวนี้ดูใหม่และสภาพดีกว่ามาก อากรเลยยิ่งแน่ใจว่าเขาถูกแกล้ง มีคนจงใจเอาโต๊ะเก่าๆพังไว้ให้เขา

  ดึงอยู่พักนึงไม่ออก ก็เลยก้มลงไปดูใต้โต๊ะว่าติดอะไรแน่ แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงสุดตัว เมื่อเห็นนักเรียนชายคนหนึ่งเสื้อผ้าเลอะเทอะโคลนดำๆ ใบหน้าก็เปื้อนสกปรกไม่ต่าง ท่าทางน่ากลัว นั่งอยู่ที่พื้นเอามือทั้งสองข้างยึดขาโต๊ะ จ้องหน้าอากรเขม็งเหมือนกำลังโกรธ รังสีอะไรบางอย่างที่ส่งมาจากเด็กคนนั้นทำให้อากรรู้สึกกลัวจนขนหัวลุกและสั่นอยู่ในอก เขาผงะหายหลังและถอยฉากออกไปห่าง ใจเต้นรัว

  ตอนนั้นเองมีเพื่อนอีกสองสามคนเดินเข้ามาในห้อง อากรหันไปมองตามเสียง และเมื่อหันมาอีกที เด็กคนทีเห็นว่านั่งดึงเก้าอี้อยู่เมื่อครู่ก็หายไปแล้ว

  อากรพยายามสงบสติอารมณ์ คิดว่าคงเป็นเรื่องแกล้งกันอีกตามเคย เดินลงจากตึกไปล้างหน้าล้างตา แล้วกลับขึ้นมาใหม่ ตอนนั้นเพื่อนๆมากันเกือบเต็มห้องแล้ว และคุณครูก็กำลังจะมา อากรกลับไปที่โต๊ะตัวนั้นอีกครั้ง แล้วออกแรงดึงเต็มที่อีกที คราวนี้โต๊ะไม่ติดอะไรแล้ว ตามแรงดึงออกมาแต่โดยดี อากรลากโต๊ะมาตรงที่ว่างตรงกลางด้านหลังห้อง แล้วเดินไปหาเก้าอี้จากหลังห้องอื่นมานั่ง แล้วเปิดกระเป๋านักเรียนเตรียมสมุดหนังสือออกมาพร้อมที่จะเรียน ท่ามกลางสายตาของเพื่อนทั้งห้องที่หันมามองกันเป็นตาเดียวและพากันซุบซิบด้วยน้ำเสียงตื่นๆ

  “นี่ๆ เด็กใหม่ อากรใช่ป่ะ” เพื่อนหญิงในห้องคนหนึ่งร้องเรียกน้ำเสียงกระวนกระวาย “เธอใช้โต๊ะตัวนั้นไม่ได้นะ เอาไปเก็บเหอะ”

  อากรมองตาขวางกลับไป “ทำไม ของของโรงเรียน ไม่ใช่ของใคร นักเรียนคนไหนก็ใช้ได้”

  ทันทีที่อากรพูดจบ ก็มีเสียงเหมือนขาโต๊ะกระแทกพื้นดังปัง จนทุกคนเงียบกันไปหมดรวมทั้งอากรด้วย

  นักเรียนหญิงคนเดิมทำเสียงกระซิบกระซาบ แต่อากรไม่สนใจ เธอจึงเขียนจดหมายน้อยโยนให้อากรก่อนที่ครูจะเข้าชั้นเรียนพอดี

  อากรไม่ได้สนใจจะเปิดดู แต่หนีบไว้ในสมุด จนกระทั่งครูสอนไปได้สักครึ่งคาบ อากรล้วงมือเข้าไปในลิ้นชักโต๊ะเพื่อหยิบกระเป๋าดินสอที่เอาใส่ไว้ แต่ควานไม่เจอเลยวานลึกเข้าไปด้านใน และสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่ทำเอาต้องชะงัก สิ่งนั้นนุ่ม หยุ่น เย็น เรียบลื่น คล้ายผิวเนื้อมนุษย์เปียกๆอุ่นๆ

  อากรมือสั่นด้วยความกลัว ขนลุกเกรียวตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงกระดูกสันหลัง เขาค่อยๆดึงมือกลับมาช้าๆ และเมื่อก้มลงมองมือตัวเองก็ต้องร้องว้ากเสียงดังลั่น ลุกขึ้นยืนแล้วก็หงายหลังชนเก้าอี้ล้มลงจนตัวเองหล่นไปนั่งที่พื้น

  ในขณะที่เพื่อนคนอื่นและครูวิ่งมาดู อากรได้แต่นั่งนิ่ง ดวงตาเบิกโพลงจ้องเข้าไปที่ลิ้นชักโต๊ะ เขามองเห็นเหมือนมือสีขาวซีดคู่หนึ่งกำลังค่อยๆคืบคลานออกมาจากด้านในสุด ฝ่ามือทั้งสองข้างชุ่มไปด้วยเลือด

  “อากร อากร มือเธอเป็นอะไร” ครูร้องถามเสียงตกใจ

  เด็กชายก้มลงมองมือตัวเองแล้วก็ตกใจจนหน้าซีดอีกรอบ ที่มือของเขาชุ่มไปด้วยเลือดจริงๆไม่ใช่ภาพลวงตา มีแผลเปิดยาวตั้งแต่ข้อมือลากไปที่หลังมือยาวคล้ายรอยข่วน

  หลังปฐมพยาบาล พ่อมารับอากรไปรักษาแผลที่โรงพยาบาล ครูแจ้งว่าอากรถูกตะปูในโต๊ะนักเรียนที่ชำรุดขูด แต่อากรแน่ใจว่าไม่ใช่ตะปู มันเป็นอะไรบางอย่างที่เขาเองก็เล่าไม่ได้

  และหลังจากอ่านจดหมายน้อยที่หนีบในสมุด อากรก็บอกพ่อว่าจะไม่ไปเรียนที่โรงเรียนนี้อีกแล้ว ข้อความในจดหมายนั้นว่า

  “โต๊ะที่เธอนั่งมีเด็กนักเรียนกินยาตาย เด็กคนนั้นเป็นโรคจิตชอบทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่น ดูสิ ในลิ้นชักโต๊ะยังมีคราบเลือดอยู่เลย ใครนั่งเจอดีทุกคน รีบเอาโต๊ะไปเก็บเถอะ” ·

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down