About
Table of Contents
Comments

  บทนำ

  ณ อาคารอเนกประสงค์ของโรงเรียนในเวลาบ่ายแก่ๆ ครูสาวสี่ถึงห้าคน กำลังวุ่นอยู่กับการล้างผัก หั่นเนื้อ หมู ไก่ บนเสื่อที่ปูไว้กับพื้นปูนขัดมันวาว ด้านหลังมีครูผู้ชายสองคน กำลังง่วนอยู่กับการยกเตาอั้งโล่ออกจากห้องเก็บของไปวางเรียงกัน ใช้ไม้ที่หาได้ตามพื้นโกยขี้เถ้าออกจากช่อง

  ปากก็คุยกันเรื่องของที่จะเตรียมไว้ให้ผู้อำนวยการอันเป็นที่รักและเคารพของพวกเขา ซึ่งวันนี้จะทำงานวันสุดท้าย เลยมีการเลี้ยงส่งเล็กๆ น้อยๆ ตามธรรมเนียม

  บนระเบียงของอาคารเรียน ผู้อำนวยการประพฤกษ์ ภัทรปรีชา กำลังยืนกอดอกมองลงไปยังสนามหญ้ากว้างใหญ่ของโรงเรียน ตรงขอบสนามขวามือนั้นเป็นสนามวอลเลย์บอล มีนักเรียนหญิงกำลังรวมตัวกันเพื่อหาผู้ลงเล่นให้ครบทั้งสองทีม

  ฝั่งซ้ายเป็นสนามเซปักตะกร้อ นักเรียนชายต่างกำลังขึงตาข่ายกันอย่างขะมักเขม้น ถัดลงไปเป็นสนามฟุตบอลมีหญ้าเป็นสีเขียวปนน้ำตาลเป็นหย่อมๆ ขึ้นทั่วบริเวณ นักเรียนชายกำลังรวมทีมไม่ต่างกัน

  รอบสนามนั้น มีต้นกระถินณรงค์กำลังแผ่กิ่งก้านสาขา ให้นักเรียนหลายสิบเข้าไปจับจองม้านั่งไม้ที่ทำไว้รอบโคนต้น บ้างก็จับกลุ่มกันคุย บ้างก็นั่งเดี่ยว มีหนังสือในมือเป็นเพื่อน เลยสนามฟุตบอลลงไปอีก เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ด้านซ้ายของสระเป็นแปลงผักนานาชนิดของนักเรียนปลูกไว้

  เขาเดาได้ไม่ยากเลยว่า หมูกระทะที่จะทำในเย็นนี้ จะมีผักบุ้ง ผักกาดขาว ต้นหอม ขึ้นฉ่าย กวางตุ้งจากแปลงเหล่านี้อย่างแน่นอน และที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นเห็ดนางรมในโรงเรือนถัดจากแปลงผักไปก็จะไปรวมอยู่กับผักอื่นๆ

  คิดแล้วก็ใจหายไม่น้อย แม้จะเตรียมตัว เตรียมใจสำหรับวันเกษียณไว้นานเป็นปีแล้วก็ตาม แต่พอเวลามาถึงจริงๆ ประพฤกษ์ก็เกิดอาการเศร้านิดๆ ที่จะต้องจากโรงเรียนแห่งนี้ที่เขาย้ายจากกรุงเทพมหานครมาประจำอยู่ถึงยี่สิบปีไป จะต้องจากครูผู้ใต้บัญชา จะต้องจากนักเรียนที่เขาจำหน้า จำชื่อได้แทบทุกคนไป แต่ชีวิตก็แบบนี้ มีมาก็ต้องมีไป มีพบก็ต้องมีจาก เป็นเรื่องธรรมดา

  “อยู่นี่เองเหรอคะคุณ ดุจก็ตามหาแทบแย่”

  ประพฤกษ์หันไปหาเจ้าของเสียง ที่เดินขึ้นบันไดมาด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ ดุจดาวสอดมือเกี่ยวแขนสามีไว้ ตาก็มองไปยังจุดที่สามีมอง ใจก็หวิวไหว ในเมื่อจะได้มาโรงเรียนนี้เป็นวันสุดท้ายเช่นกัน

  แม้ไม่ได้ทำงานที่นี่ แต่ก็ผูกพันไม่ต่างกัน เพราะหลังโรงเรียนที่ตัวเองเป็นผู้อำนวยการอยู่เลิก ก็จะขับรถมาหาสามีกับรับลูกสาวประจำ ถ้าสามียังไม่เสร็จงาน ก็จะจูงมือลูกไปเดินเล่นตรงท่าน้ำรอ

  “เห็นสาวๆ กำลังวุ่นอยู่โน่นแน่ะค่ะ ตกลงทำอะไรเลี้ยงคะ”

  “ก็น่าจะเมนูเดิม หมูกระทะ”

  ประพฤกษ์หันไปยิ้มให้ภรรยาแบบไม่คิดอะไรมาก ในเมื่อเรื่องกินไม่ใช่สาระสำคัญกับเขาสักเท่าไหร่ และก็ไม่รู้สึกหิวสักนิด

  “แล้วบ้านดุจล่ะ จะเลี้ยงอะไรจ๊ะ”

  เขามองใบหน้าอันสวยสดของภรรยาแล้วยิ้มบางๆ ให้ พอเห็นว่ามีนักเรียนกับครูจากสนามมองมา ทั้งสองเลยขยับออกห่างกัน มือที่เกี่ยวกันนั้นก็ละออก ต่อให้ไม่มีใครคิดอะไร แต่ก็ไม่อยากให้ใครมองไม่ดี หรือเอาเป็นเยี่ยงอย่างได้

  “หลายอย่างค่ะ เห็นว่าชาวบ้านจะทำมาคนละนิดละหน่อย แล้วเอามารวมกันค่ะ กำนันฝากบอกคุณว่าห้ามพลาดงานนี้นะคะ”

  เพราะอาทิตย์หน้าโรงเรียนที่ดุจดาวเป็นผู้อำนวยการอยู่ ก็จะจัดงานเลี้ยงส่งให้เช่นกัน หลังจากย้ายตามสามีมาเป็นครูน้อยอยู่สิบสองปี เป็นผู้อำนวยการอีกแปดปี ก็ถึงเวลาต้องกลับภูมิลำเนาเดิมสักที เพราะมีกิจการของพ่อแม่สามีรอให้ไปสานต่ออยู่

  “ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้ผมก็เป็นคนว่างงานแล้ว ดุจจะให้ไปไหนก็ได้หมดจ้ะ”

  “แล้วลูกล่ะคะอยู่ไหน”

  “ขอไปดูเพื่อนๆ เล่นน้ำอยู่ท่าโน่นแน่ะ”

  “ไปดูเพื่อนเล่น หรือจะลงเล่นด้วยคะ”

  “คงทั้งสองอย่างนั่นล่ะจ้ะ แต่ผมให้สมไปด้วยแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก อีกไม่กี่วันลูกก็จะไม่ได้เจอเพื่อนแล้ว ให้เล่นด้วยกันจนหนำใจไปเลย”

  “ใส่เสื้อชูชีพหรือเปล่าคะ”

  “ผมสั่งสมไว้แล้ว ว่าถ้าจะลงน้ำให้ใส่”

  ด้านหลังสระน้ำกับแปลงผักติดคลองชลประทานไปตลอดแนว มีท่าน้ำสร้างจากไม้เนื้อแข็งยาวสิบสองเมตร ติดกันคือสะพานไม้กว้างห้าเมตรทอดข้ามไปหาอีกฝั่ง ซึ่งเป็นท้องทุ่งนาอันเขียวขจีมองไปสุดลูกหูลูกตา

  สาวน้อยประกายฟ้า ภัทรปรีชา ในวัยสิบห้าปีเต็ม อยู่ในชุดกางเกงยีนขาสั้นระดับเข่า เสื้อยืดสีดำหุ้มกายไว้ กำลังนั่งอยู่บนสะพาน ข้างกันมีบุญสม ผู้เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแล อีกข้างมีเจนจิราเพื่อนสนิทนั่งเคียงอยู่ ทั้งคู่กำลังมองเพื่อนในชั้นเรียนเกือบทุกคนเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

  “เมื่อไหร่จะลงสักทีวะเจน กูเล่นรอตั้งนานแล้วนะ”

  หนุ่มน้อยปองคุณร้องจากในน้ำมาหา ตาก็จ้องมองใบหน้าขาว สวย น่ารักของคนข้างเจนจิรา สาวห้าวประจำห้องไปด้วย

  “เอ่อๆ กูจะลงเดี๋ยวนี้ล่ะมึง เร่งจัง”

  เจนจิราลุกพรวดขึ้น แล้วกระโดดจากสะพานลงน้ำดังตูม เสียงเพื่อนๆ ต่างเฮฮาลั่นท่าน้ำ

  “ฟ้าลงมาเร็ว วันนี้ ผอ. อนุญาตแล้วนะ ไม่ลงเสียโอกาสแย่เลย” เจนจิราร้องเรียกเพื่อนเพียงคนเดียวที่ยังไม่ลงน้ำ

  “นั่นสิฟ้า มาเร็วๆ ไม่ต้องกลัวหรอก เราดูแลเอง”

  ปองคุณรีบสนับสนุน แล้วยิ้มกว้างจนเห็นฟันแทบจะครบทุกซี่ เพื่อนๆ กำลังเล่นอยู่ในน้ำอย่างสนุกสนานต่างก็ร้องเรียกตามๆ กัน

  “รอแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวลงๆ”

  ประกายฟ้าหันไปมองพี่เลี้ยงร่างอวบกำลังเอาครีมกันแดดประโคมลงมาตามใบหน้า คอ แขนและขาอีกรอบ เป็นเชิงเร่งว่าอยากลงน้ำเร็วๆ

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down