นางเป็น"หมอสาวอัจฉริยะ" แห่งศตวรรษที่ 21 ยังเป็นนักฆ่าหญิงเพียงคนเดียวภายใต้องค์กรนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย ทะลุมิติถึงสมัยโบราณและกลายเป็นคูณหนูทีน่าเกลียด แม่เสียชีวิตไป พ่อก็ไม่รัก นอกจากนี้ ยังถูกบังคับให้นางแต่งงานกับท่านอ๋องที่เย็นชาและโหดร้าย ลือกันว่าเขาไม่สนใจผู้หญิง ช่างมันเถอะ นางยอมแต่งงาน ชาตินี้ขอปลอดภัยก็พอแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่า ท่านอ๋องมาขอนอนด้วยกันทุกคืน
"ปัง--"
ประตูที่ชำรุดถูกใครบางคนถีบออก
เมื่อสาวใช้เสี่ยวหลิงเห็นผู้มาเยือน นางก็ตะโกนด้วยความหวาดกลัว: "คุณหนูรอง! คุณหนูรอง ข้าขอร้องท่านได้โปรด..." ทันใดนั้นเองก็ถูกชิวหลิงสาวใช้ส่วนตัวของผู้มาเยือนปิดปากไว้ทันที
คนที่มาคือคุณหนูรองมู่หรงเหยาแห่งจวนมู่หรง ตอนนี้นางราวกับยมทูตที่มาจากนรก พร้อมกับถือแส้เก้าส่วนที่ทำขึ้นเป็นพิเศษอยู่ในมือ
แส้เส้นนี้แตกต่างจากแส้เก้าส่วนทั่วไป บนแส้เก้าส่วนที่มู่หรงเหยาถือนั้นเต็มไปด้วยหนามแหลมคมเล็ก ๆ ภายใต้แสงจันทร์อันหนาวเย็นยิ่งทำให้หนามแหลมคมนั้นดูน่าขนลุกขึ้นไปอีก
"ฟึ่บ--"
มู่หรงเหยายกแส้เก้าท่อนในมือขึ้น คุณหนูอายุ 15 ปีสีหน้าที่มีแต่ความดุร้าย ดวงตารียาวคู่หนึ่งเต็มไปด้วยความอิจฉาและความเกลียดชัง นางเล็งแส้ไปหาคนที่นอนอยู่บนเตียงไม้ที่กำลังลอกออกแล้วเฆี่ยนตีนางด้วยแรงครึ่งหนึ่งที่มี
ทันใดนั้นคนบนเตียงก็ลืมตาขึ้น แต่ในขณะเดียวกันหนามบนแส้เก้าส่วนก็แทงเข้าไปในเนื้อแล้ว ความเจ็บปวดถูกส่งไปยังเส้นประสาท ทำให้นางชักกระตุกโดยไม่รู้ตัว
ด้วยแรงขณะที่มู่หรงเหยาดึงแส้เก้าส่วน ผิวหนังบนหลังของผู้ถูกเฆี่ยนก็เปิดออก ใช้เวลาเพียงไม่นานเสื้อสีขาวก็ถูกย้อมไปด้วยคราบเลือดสีแดงสด
เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองส่งเสียงเล็ดลอดออกมา คนที่อยู่บนเตียงจึงกัดหมอน กอดตัวเองแน่นและหดตัวเข้าไปในผ้าห่มบาง ๆ
มู่หรงเหยาโมโหกับการกระทำของนาง จึงเหวี่ยงแส้เก้าท่อนของนางไปที่กาต้มน้ำบนโต๊ะจนหล่นลงกับพื้นและแตกเป็นชิ้น ๆ แต่มู่หรงเหยาไม่สนใจและก้าวไปข้างหน้าลากคนบนเตียงลงไปที่พื้น
“เจ้ายังกล้าหลบอีกรึ?” มู่หรงเหยามองไปยังพื้นที่คนบนพื้นถูกเฆี่ยนด้วยเลือดสีแดง ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดง แล้วนางก็โบกแส้อย่างสะเปะสะปะ: "หลบสิ! ข้าบอกให้หลบ!"
มู่หรงเหยาทอดสายตามองลงไปคนที่กำลังวิ่งหนีไปรอบ ๆ บนพื้นเหมือนหนู นางรู้สึกสะใจและยิ่งลงมืออย่างโหดเหี้ยมมากขึ้น
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นพระชายาขององค์ชายเยี่ยนจริง ๆ งั้นหรือ? เจ้าคิดว่าถ้าฝ่าบาทให้เจ้าแต่งงาน แล้วเจ้าจะแต่งงานกับองค์ชายเยี่ยนได้อย่างราบรื่นงั้นหรือ?”
มู่หรงเหยานึกถึงใบหน้าเคร่งขรึมและสายตาที่เย็นชาขององค์ชายเยี่ยนเมื่อเขามองมาที่นาง แล้วก็พลางคิดว่าเขาคงจะใช้สายตาแบบเดียวกันมองนังอัปลักษณ์ที่อยู่บนพื้นนั่น นางจึงควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่ครู่หนึ่งแล้วเฆี่ยนคนที่อยู่บนพื้นอย่างบ้าคลั่ง
"เคร้ง--" ในที่สุดแส้เก้าท่อนในมือของมู่หรงเหยาก็พัง และเรือนหลังเก่าทรุดโทรมก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง
เสี่ยวหลิงที่เดิมทีถูกปิดปากไว้ก็ได้น้ำตาไหลนองหน้า และหมดแรงดิ้นรนอีกต่อไป
คนที่นอนอยู่บนพื้นขดตัวเป็นวงกลม พร้อมกับกระตุกไม่หยุด อีกทั้งเสื้อผ้าของนางก็เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด แต่นางก็ยังไม่กล้าส่งเสียงออกมาและกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ฮึ่ม! เจ้าคิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าสุขสมหวังและได้หน้าได้ตาแต่งงานกับองค์ชายเยี่ยนงั้นรึ? เจ้าฝันไปเถอะ!” มู่หรงเหยามองลงมา และโยนแส้เก้าท่อนที่เหลือในมือของนางทิ้ง
เปลวไฟตะเกียงน้ำมันในเรือนสั่นไหวเล็กน้อย มู่หรงเหยาซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือดในขณะนี้มีสีหน้าบิดเบี้ยวราวกับผีร้ายที่มาจากยมโลกเพื่อมาเอาชีวิต
แม้แต่ชิวหลิงสาวใช้ส่วนตัวของนางเองก็ยังรู้สึกหวาดกลัวกับสายตาอันดุร้ายของผู้เป็นเจ้านาย
และในขณะนั้นเองมู่หรงเหยาจ้องมองไปที่ชิวหลิง ชิวหลิงเองก็ผงะไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบรับผู้เป็นเจ้านาย และลากเสี่ยวหลิงที่ยังพยายามคงดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตายออกไป
มู่หรงเหยามองชิวหลิงจากไป จากนั้นหันก็กลับมามองคนที่ดูเหมือนพวกชั้นต่ำบนพื้น นางหัวเราะเยาะและคุกเข่าลงและพบว่าคนที่อยู่บนพื้นกำลังกำอะไรบางอย่างที่มีสีแดงไว้แน่น
มู่หรงเหยาตะคอกอย่างเย็นชาและออกแรงคว้ามันมาจากมือที่เปื้อนเลือดของนาง แต่กลับพบว่ามันเป็นผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง ด้านบนปักด้วยรูปเป็ดแมนดารินกำลังเล่นอยู่ในน้ำ!
คนที่เงียบมาตลอด เป็นเพราะว่าผ้าเช็ดนางที่นางพยายามปกป้องถูกแย่งไป จึงพยายามดิ้นรนเพื่อเอามันกลับคืนมา
เมื่อมู่หรงเหยาเห็นนางก็โกรธจนควันออกหู พร้อมกับ "ถุย" และฉีกผ้าเช็ดหน้าอย่างไม่เหลือชิ้นดี
หลังจากนั้นก็ยกเท้าเตะไปที่บริเวณท้องของคนบนพื้นทันทีโดยไม่ลืมที่จะสาปแช่งขณะเตะ:
“นังสารเลว! เจ้าไม่แม้แต่จะส่องกระจกดูตัวเอง แล้วยังอยากจะแต่งงานกับองค์ชายเยี่ยนอีกงั้นหรือ? เจ้ามันหน้าด้านไร้ยางอายจริง ๆ
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นบุตรีที่ถูกต้องตามกฎหมายของจวนมู่หรงจริง ๆ หรือ? เจ้ามันก็แค่หญิงชั้นต่ำที่เป็นบุตรสาวของพ่อค้า! เจ้ามันเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ผู้ที่ได้แต่งงานวันนี้ก็คงเป็นข้า! ข้าต่างหากที่เป็นบุตรีที่ชอบธรรมด้วยกฎหมายของจวนมู่หรง! ข้าคือพระชายาขององค์ชายเยี่ยน!
มู่หรงเหยาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนเสียสติไปแล้ว นางพูดอย่างไม่เลือกหน้าและเตะคนที่ขดตัวอยู่บนพื้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดจนเท้าของนางเจ็บ
คนที่นอนอยู่บนพื้นหยุดเคลื่อนไหวไปนานแล้ว เสื้อผ้าก็แทบไม่เหลือพอปกคลุมร่าง มิหนำซ้ำทั้งร่างเต็มยังไปด้วยคราบเลือดจนแยกไม่ออกว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหนบ้าง และไม่มีบริเวณไหนเลยที่ไม่มีบาดแผล ราวกับศพที่ถูกหมาป่าที่หิวโหยกัดกิน
“อยากตายแล้วหรือยัง? ขอร้องข้าสิ ฮ่า ๆ! มันไม่ง่ายหรอก! ข้าจะทำให้ชีวิตเจ้าทรมานยิ่งกว่าตายไปเสียอีก! เด็ก ๆ!”
มู่หรงเหยาเหยียบคนบนพื้นด้วยความเกลียดชัง และสะบัดแขนเสื้อของนาง จากนั้นชิวหลิงก็พาเฉินซุ่นที่เมาหัวราน้ำเข้าไปในเรือน
“พี่เฉิน จำไว้นะเจ้าคะ! นี่คือคุณหนูสายตรงของจวนมู่หรง คว้านางเอาไว้ ท่านก็จะกลายเป็นบุตรเขยที่แท้จริงของจวนมู่หรง มีพร้อมทั้งเงินทองและอำนาจ อีกทั้งท่านจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่า ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป!”
มู่หรงเหยายิ้มอย่างร้ายกาจพูดกับชายขี้เมาที่ไม่ได้สติอยู่ พร้อมกับผลักเขาเข้าไปในเรือนที่ทรุดโทรม
“เฝ้าให้ดี หากมีอะไรผิดพลาด ข้าเอาเรื่องเจ้าแน่!” มู่หรงเหยาพูดกับชิวหลิง จากนั้นก็ออกจากสถานที่โกโรโกโสแห่งนี้อย่างไม่ลังเล
กลิ่นยาปลุกกำหนัดจาง ๆโชยมาจากเรือนที่ทรุดโทรม ชิวหลิงปิดปากและจมูกของนางด้วยผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำและฟังการเคลื่อนไหวด้านในเรือนอย่างเงียบ ๆ
"ฮึ ๆ! คนสวยจ๋า! พี่มาแล้ว!"
พอชิวหลิงได้ยินก็แทบจะอาเจียน ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดเต็มไปด้วยแผลของนางแบบนั้น ยังเรียกว่าสวยอยู่อีกหรือ? ยาปลุกกำหนัดนี้อันตรายจริง ๆ!
"ช่วยด้วยเจ้าค่ะ ช่วยด้วยเจ้าค่ะ..."
ชิวหลิงผู้ยืนเฝ้าอยู่ที่ประตูได้ยินเสียงเรียกที่อ่อนแรงของคุณหนู นางคิดกับตัวเองว่าคราวนี้คุณหนูใหญ่ไม่รอดแน่! แผนการของคุณหนูรองดีจริงเชียว ถ้าจะโทษใคร ก็ต้องโทษตัวท่านเองที่เกิดมาผิดที่!
"โครม--"
เสียงของหนักชนกัน และภายในเรือนก็กลับสู่ความเงียบทันที
ชิวหลิงที่เฝ้าอยู่นอกเรือนจึงเอาหูแนบไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง
“ฮ่าฮ่า คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นคนดื้อด้านขนาดนี้ ข้าชอบยิ่งนัก!”
จากนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันลามกของเฉินซุ่น ชิวหลิงรู้สึกสั่นกลัวเฉินซุ่นที่สามารถลงมือกับคนที่ตอนนี้เละเหมือนหน้าคางคกนั้นได้ เขาคงจะกระหายจนไม่เลือก
"อ๊าก--"
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงกรีดร้องคล้ายหมูที่ถูกเชือด และมีการเคลื่อนไหวบางอย่างอยู่ด้านในจวนมู่หรง
ชิวหลิงจึงรีบยกเท้าถีบประตูเข้าไป แล้วก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า:
เฉินซุ่นพยายามกลิ้งหนีอย่างสุดชีวิต ขณะเดียวกันปากก็พลางตะโกนว่า “ที่รักจ๋า ที่รักของข้า…”
ส่วนคุณหนูรองก้มศีรษะลง ผมที่ยุ่งเหยิงของนางปกคลุมสีหน้าของนาง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นสีหน้าที่ชัดเจนได้
“คุณชาย! เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?”
ชิวหลิงไม่ได้สนใจมากนัก นางมองไปทางเฉินซุ่นที่กำลังร้องโหยหวนอยู่บนพื้น นางกลัวว่าเสียงของเขาจะเรียกนายท่านกับนายหญิงมาเสียก่อน และทำให้คุณหนูรองเสียแผน นางจึงคิดจะประคองท่านชายเฉินซุ่นขึ้นมาก่อน
แต่ใครจะรู้ว่าทันทีที่ก้าวขา เข่าของนางก็ทรุดลงที่พื้น!
นางเงยหน้าขึ้นและสบตากับหญิงสาวที่เงียบงันอยู่ในห้อง ดวงตาสีเขียวเข้มส่องแสงเยือกเย็นซึ่งทำให้ชิวหลิงสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“คุณ...คุณหนูใหญ่?” ชิวหลิงมองไปที่หญิงสาวที่น่าเกลียดตรงหน้านางและค่อย ๆ ร้องเรียกอย่างลังเล
คุณหนูใหญ่? คุณหนูใหญ่อะไรกัน? ดูเหมือนหญิงสาวจะลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นภาพความทรงจำก็ผุดขึ้นมา
แท้จริงแล้วเธอยังไม่ตาย! แต่ได้ย้อนเวลากลับมา!