ชัคเป็นนักศึกษาธรรมดา และเขามีภรรยาที่เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขา เพราะความยากจน ภรรยาของเขาดูถูกเขาและไล่เขาออกจากบ้าน เพื่อนร่วมเรียนก็ขดูถูกและแกล้งเขาเช่นกัน แต่ใครจะรู้บ้างว่าโทรศัพท์จากแม่ที่คิดถึงมานานจะเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของเขา? "แม่? คุณแน่ใจหรือว่าคุณคือแม่ของฉัน" ชัคสงสัย "แน่นอนลูกฉัน ฉันโอนเงินค่าขนมให้คุณ 5,000,000 ดอลล่าร์ บอกฉันได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ" จากนั้น เหมือนความฝัน ชัคกลายเป็นเศรษฐี เขาไปซื้อบ้านจัดสรร ซื้อรถหรู กินอาหารในโรงแรมห้าดาว และเสวยสุขในสถานบริโภคชั้นเลิศ... สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่เพียงแต่ภรรยาและเพื่อนร่วมชั้นของเขาเท่านั้น เขาจะทำให้ทุกคนที่เคยดูถูกเขาตกตะลึง!
"ตื่นซะ!"
เสียงดุดันดังกระแทกแก้วหูของชัค แคนนอน และวินาทีต่อมา ผ้าห่มไปแนบร่างชายหนุ่มก็ถูกเปิดออกขึ้นจนหมด
ชัคขยี้ตาและมองไปยังผู้หญิงคนนั้น เขาพ้นลมหายใจเพื่อระบายความรำคาญ
หญิงงามที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออีเวตต์ จอร์แดน ซึ่งมีอายุมากกว่าชัคสี่ห้าปี ปู่ของเขารับอุปถัมภ์เธอเอาไว้ เธอได้รับการเลี้ยงดูมาเพื่อเตรียมเจ้าสาวของเขาโดยเฉพาะ
แต่ตั้งแต่คุณปู่ของเขาเสียชีวิต ท่าทีของเธอที่มีต่อชัคก็มีแย่จะแย่ลง
“ไอ้เศษขยะไร้ประโยชน์ แค่หน้าแกยังทำฉันโมโหเลย!” ใบหน้าที่สวยงามของอีเวตต์เต็มไปด้วยความรังเกียจ
"..." ชัคขมวดคิ้วและพยายามไม่เก็บคำพูดของอีเวตต์มาคิดมาก
“จะบอกอะไรให้นะ ฉันพยายามสนับสนุนแกอย่างเต็มที่แล้ว ถ้ายังไม่ยอมทำตัวดี ๆ อีก ฉันจะเฉดหัวแกออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ”
ชัคสวมเสื้อผ้าและกำหมัดแน่น “แต่เธอเป็นเมียฉันนะ!”
“มงเมียอะไร ปู่แกนั่นแหละที่บังคับให้ฉันแต่งงานกับแก เขาถามฉันซักคำไหมว่าฉันอยากแต่งไหม? ถ้าเลือกได้ฉันไม่มาแต่งงานกับคนไม่เอาถ่านอย่างแกหรอก!”
ชัคสวมเสื้อผ้าและยืนต่อหน้าอีเวตต์ “เมียจ๋า...”
"อย่ามาเรียกฉันว่าเมียจ๋าอีก ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายนะ เงินที่แกเอาไปกินไปดื่มตอนนี้เป็นของฉันแล้ว ถ้าแกกล้ามาเมียจ๋าใส่ฉันอีก ฉันจะทิ้งแกให้นอนตายอยู่ข้างถนน" อีเวตต์พ้นลมหายใจด้วยความโกรธก่อนจะมองชัคด้วยสายตารังเกียจ "แต่ฉันมั่นใจว่าขยะอย่างแกคงมีชีวิตรอดอยู่ข้างถนนได้ไม่ได้หรอก"
ตั้งแต่คุณปู่จากไป ความอัปยศเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับชัคอีกต่อไป ความหยิ่งในเกียรติที่เปราะบางของเขามีเกือบจะถูกอีเวตต์บดทำลายไปจนหมดสิ้น บางครั้งชัคถึงกับสงสัยว่าเขาเป็นเศษขยะจริงๆ หรือเปล่า
"อืม... มะ เมี--... อีเวตต์ ฉันไม่มีเงิน"
ชัคสูดหายใจเฮือกโต ปีนี้เขาเป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่ง ส่วนอีเวตต์น่ะเหรอ เธอเป็นถึงอาจารย์มหาลัย แถมยังเป็นเจ้าของธุรกิจอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเธอรวยเอามาก ๆ เลยล่ะ
“ดูตัวเองสิ เหมือนขอทานเลย น่าขยะแขยง!” อีเวตต์มองที่ชัคอย่างรังเกียจ จากนั้นเธอก็หยิบเงิน 200 จากกระเป๋าของเธอแล้วโยนลงบนพื้นก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ชัคกำหมัดแน่นเมื่อได้มองแบงค์เงินที่อยู่บนพื้น
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้หยิบมันขึ้นมา เขาแบกตัวเองออกไปจากบ้านพร้อมกับความหยิ่งในเกียรติยังหลงเหลืออยู่
BMW ของอีเวตต์ขับรถออกจากโรงรถขณะที่ชัคยืนมองอยู่ริมถนน เขาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับที่อีเวตต์สอนอยู่ ดังนั้นทั้งสองจึงไปทางเดียว
แต่รถของอีเวตต์กลับขับผ่านชัคไป
"ไปขึ้นรถเมล์นู่น เศษขยะไม่คู่ควรจะมานั่งรถฉัน" อีเวตต์เหยียบคันเร่งบึ่งตรงออกไปหลังสิ้นคำพูด
ชัคกัดฟันและมองดูรถ BMW ที่หายไปสุดขอบถนน ดวงตาของเขาแดงเล็กน้อย “อีเวตต์ ทำกันเกินไปแล้ว”
ตอนนี้เขาไม่เหลือตังอยู่แม้แต่เซ็นต์เดียวแล้ว หลายวันที่ผ่านมาเขาต้องยืมเงินเพื่อนร่วมห้องเพื่อซื้ออาหารกลางวัน แล้ววันนี้ก็ถึงวันนัดคืนเงินแล้วด้วย โชคร้ายที่เงินสองร้อยนั้นมัน "หนัก" จนเกินไป เขาหยิบมันขึ้นมาไม่ไหว...
เมื่อเขามาถึงมหาวิทยาลัย สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็กลายเป็นความจริง
ชัคพบนักศึกษาผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ของเขาทันทีย่างไปยังรั้วมหาลัย
ลาร่า จีน กำลังซื้อชานมอยู่หน้ารั้วมหาลัย เมื่อเธอเห็นชัคยืนอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่ เธอก็เดินเข้าหาไปและว่า "ชัค ได้เวลาใช้หนี้แล้ว ใช่ไหมล่ะ?"
ชัคอยากจะมุดแผ่นดินหนีเพราะความละอาย เขาเกาหัวตัวเองและกล่าวด้วยความอับอาย "เอ่อ... ขออีกวันนะ ฉันจะไปทำงานพาร์ทไทม์ ฉันจะจ่ายคืนให้เธอช้าสุดพรุ่งนี้!"
"ไม่ นายถ่วงเวลามานานแค่ไหนแล้วเนี่ย? นายต้องจ่ายคืนให้ฉันวันนี้เลย!" ลาร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งที่บ่งบอกว่าเธอจะไม่ยอมต่อรองด้วยอีกต่อไปแล้ว
ชัคถอนหายใจ “แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเงินเลยจริง ๆ นะ...”
“ไม่มีเงินก็ไปขอพ่อแม่สิ เป็นเด็กำกำพร้าหรือไง?”
"นี่เธอ!" ชัคกำหมัดแน่น เขาอยู่กับคุณปู่มาตั้งแต่ตอนที่จำความได้ เขาไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อแม่ของตัวเองมาก่อนเลย แต่การที่มาโดนลาร่าเรียกว่าเป็นเด็กกำพร้านี้ มันยิ่งทำให้เขาขุ่นเคืองมากเข้าไปใหญ่
"นี่นายเป็นเด็กกำพร้าจริง ๆ เหรอ? เอาล่ะ ๆ ฉันจะยืดเวลาให้จนถึงบ่ายนี้ แต่นายต้องคืนฉันมา 400 นะ ถ้าไม่คืน ฉันจะขอให้แฟนฉันหาคนมาจัดการกับนาย!" ลาร่าเตือนก่อนและเดินจากไป
ชัคยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมความเศร้าที่ล้นหัวใจ เขาเจอกับความอัปยศอดสูแบบนี้มามากเกินพอแล้ว
เขาเริ่มคิดว่าจะไปหางานพาร์ทไทม์ที่ไหนทำดี แต่ตอนนั้นเอง มือถือของเขาก็ดังขึ้น
หน้าจอมือถือแสดงหมายเลขจากต่างประเทศ เขากลัวว่ามิจฉาชีพจะโทรมา
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ถึงการรับสมัครทหารรับจ้างออนไลน์ในซีเรียที่เพิ่งจะเป็นที่นิยมกันไป ให้ค่าจ้างถึง 8000 ดอลลาร์ต่อวัน เขาก็สนใจขึ้นมาในทันที ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันอาจจะเป็นการพูดเล่นออนไลน์ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงละก็ เขาจะเก็บของไปซีเรียโดยไม่ลังเลเลย
"สวัสดีครับ" ชัคทักทาย
คำพูดภาษาจีนกลางรัวเข้ามาจากปลายสาย "ชัคกี้ นี่แม่หนูเองนะ!"
“…” ชัคตกตะลึง
ตอนแรกเขาคิดว่าคงจะมีคนโทรมาล้อ แต่ความเศร้าอันหนักหน่วงก็กลับถ่วงหัวใจในทันที เขาจะไปมีแม่ได้อย่างไร?
“ชัคกี้ อย่าโทษแม่เลยนะ แม่มีเหตุให้ต้องย้ายไปต่างประเทศ แต่ในที่สุดตอนนี้แม่ก็กลับบ้านได้แล้ว แม่จะพยายามชดเชยเวลาที่เราเสียไปอย่างเต็มที่ แม่จะโอนเงินไปให้เราใช้ 5 ล้านดอลลาร์ก่อน ถ้าหมดเมื่อไหร่ก็โทรมานะ”
บทสนทนาแปลก ๆ จบลงด้วยบรรยากาศแปลก ๆ พอวางสายก็มีข้อความมา
"บัญชีของคุณที่มีหมายเลขลงท้าย 0123 มีเงินเข้า 5,000,000.00 ดอลลาร์ และยอดคงเหลือปัจจุบันคือ 5,000,000.83 ดอลลาร์"
ชัคตกตะลึงจนหัวหมุน แม่ที่เขาไม่เคยได้เจอมาก่อน อยู่ ๆ มาโอนเงินให้เขาห้าล้านเหรอเนี่ย?
เขาดูข้อความและนับเลขศูนย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ย้ำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกว่ามันคือเรื่องจริงไปสิบกว่าครั้ง และจากนั้นจึงไปยังตู้ ATM เพื่อตรวจสอบว่ามันจริงหรือเปล่า สิ่งที่เห็นทำให้เขาดีใจจนตัวลอย!
ห้าล้าน!
สิ่งที่น่าตกใจไปยิ่งกว่านั้น คือการที่อยู่ ๆ แม่ผู้ลึกลับของเขาก็มาให้ค่าขนมกว่าห้าแสนราวกับว่ามันเป็นเงินทอน แม้แต่อีเวตต์เองที่ยุ่งอยู่กับธุรกิจของเธออยู่ตลอดยังมีไม่ถึงล้านเลย นับรถกับเงินเก็บของเธอด้วยเธอก็ยังมีไม่ถึง!
ชัคหัวเราะคิกคักก่อนจะเดินไปมหาลัย
อีเวตต์ที่กำลังมุ่งหน้าไปสอนที่อาคารเรียนรวมกล่าวด้วยความรังเกียจเมื่อได้เห็นเขา "ทำไมแกยังไม่ไปเรียนอีก มาหัวเราะอยู่ทำไม?"
“ฉันไม่ไปเรียนแล้ว” ชัคยืนมองอีเวตต์อยู่กับที่
อีเวตต์รู้สึกแปลกเล็กน้อย ตาของชัคเหมือนจะส่อประกายความมั่นใจออกมา เขาเป็นเศษขยะที่ไร้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ? นี่เขากล้ามาต่อปากต่อคำกับเธอได้อย่างไร? อีเวตต์โมโห "แกกล้าเถียงฉันได้ยังไง? ถ้ากล้าจริง วันนี้ก็ไม่ต้องมาเหยียบบ้านฉัน!"
ชัคเบื่อหน่ายการถูกอีเวตต์ปฏิบัติอย่างเย็นชาจนเต็มแก่แล้ว เขาพูดเหยียด ๆ “ฉันไม่กลับไปหรอก ฉันจะไปนอนที่อื่น”
“ตลกชะมัด ตอนนี้ฉันมีเงินห้าล้านแล้ว ฉันไม่ต้องมาทนมองหน้าบึ้ง ๆ ของอีเวตต์อีกต่อไปแล้ว” ชัคคิดในใจ
“แก! ดี! ฉักก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะกล้าซักแค่ไหน แต่นี้ไป ถ้าแกกล้ามาเหยียบบ้านฉันอีก ฉันจะหักขาแกทิ้งซะ!”
ชัคหันหลังให้อีเวตต์และเดินออกจากมหาลัยไปทันที
อีเวตต์กระทืบเท้าด้วยความโมโห แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเลยหันหลังเดินไปยังห้องเรียน
ชัคออกจากมหาลัยมาแล้ว ก็นั่งแท็กซี่ไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในใจกลางเมือง
สิ่งแรกที่เขาอยากจะทำด้วยเงินก้อนนี้คือการซื้อบ้านเป็นของตัวเอง
ชัคที่แต่งแสนธรรมดาผลักประตูเข้าไปเจอกับการเมินเฉยของพนักงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ คนแบบนี้ถ้าไม่มาหางานพาร์ทไทม์ทำ ก็คงจะมาขออาหาร หรือไม่ก็เป็นประเภทที่ไม่ได้จะมาซื้ออะไร แค่จะมาอาศัยความเย็นของห้องแอร์ก็เท่านั้น
แต่เมื่อผู้จัดการเดินออกมาจากออฟฟิศ เหล่าพนักงานขี้เกียจก็กระตือรือร้นเข้ามาถามในทันที "ต้องการอะไรหรือเปล่าคะคุณ?"
"ผมอยากซื้อบ้านครับ"
“จะซื้อบ้านเหรอคะ?” ตาโตของนาตาลี เซเวียร์ หรี่ลง เธอพยายามอ่านชัคอย่างระมัดระวังเป็นเวลานาน เธอเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์มานานมาก ไม่บ่อยนักที่เธอจะอ่านคนผิด
ลูกค้าอายุไม่ถึง 20 ปีอย่างชัคที่อยากจะมาซื้อบ้านก็มีเพียงหนึ่งในพันคนเท่านั้น แต่ละคนใส่สูทแบรนด์เนมและขับรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์กันทั้งนั้น
"ดิฉันขอแจ้งให้คุณทราบก่อนนะคะว่าบ้านที่ถูกที่สุดในเมืองมีราคาราว ๆ 12,000 ดอลลาร์ต่อตารางเมตร คุณแน่ใจเหรอคะว่าคุณจะซื้อ?" นาตาลีไม่อยากจะมีเสียเวลากับคนพรรค์นี้ เธอจึงพูดไปด้วยน้ำเสียงที่ใจร้อน