About
Table of Contents
Comments

  เสียงดนตรีดังกระหึ่มกับความพลุกพล่านของบรรดานักท่องราตรีที่บ้างกำลังนั่งดื่มสังสรรค์กับบรรดาพวกพ้อง บ้างกำลังออกสเต็ปลีลาวาดลวดลายกันอย่างสนุกสนานอยู่กลางฟลอร์ในสถานบันเทิงชื่อดัง ไม่ได้นำพาให้หญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงบาร์เครื่องดื่มด้านในได้ใส่ใจเลย

  สินีเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดีเข้าขั้นว่าโดดเด่น อีกทั้งเสน่ห์สาวของหล่อนยังเปี่ยมล้นจนใครต่อใครต่างต้องเหลียวมอง ซึ่งบางคนถึงกับส่งสายตาให้หล่อนเพื่อหวังที่จะสานสัมพันธ์กันต่อไป แต่ใบหน้าของหล่อนในยามนี้ติดจะเรียบเฉยมากและไม่ชายสายตาแลใครทั้งสิ้น ในมือของหล่อนถือแก้วใสที่บรรจุแอลกอฮอล์ฤทธิ์ร้อนแรงอยู่ หล่อนยกมันขึ้นจิบเป็นระยะ พอหมดก็เติมเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ การที่หล่อนทำเพียงแค่จดจ่ออยู่กับแก้วของเหลวในมือเท่านั้น ทำให้หล่อนดูค่อนข้างที่จะถือตัวและหยิ่งยโส แต่ใครจะรู้เลยว่าภายในนั้นหล่อนซ่อนความชอกช้ำไว้มากเพียงไร

  เขาพอลเจ้านายของหล่อน ทำเอาหัวใจหล่อนพังยับเยินไม่มี ชิ้นดี แต่จะไปโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะเป็นหล่อนเองที่ยอมรับความสัมพันธ์แบบนั้นตั้งแต่ต้นทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น

  แม้ว่าเขาจะไม่ใช่รักแรกและผู้ชายคนแรกของหล่อน แต่เขาเป็นคนที่หล่อนพูดได้เต็มปากว่ารัก

  สินีรู้จักกับพอลตั้งแต่ตอนที่หล่อนเรียนจบใหม่ๆ ครานั้นหล่อนเปลี่ยนที่ทำงานมาสองสามที่ สุดท้ายมาลงตัวที่บริษัทของพอล เขาวางตัวเป็นเจ้านายที่ดีมาตลอด ทั้งเขายังใจเย็นช่วยสอนงานให้กับเด็กไม่ประสาอย่างหล่อน จนกระทั่งทุกวันนี้หล่อนสามารถเรียกได้ว่าเป็นเลขามือทองที่มีความสามารถรอบด้านก็เพราะได้เรียนรู้จากเขาทั้งสิ้น ความอ่อนโยนของเขาทำให้หล่อนตกหลุมรักเจ้านายตัวเองโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอายุของเขากับหล่อนจะห่างกันถึงสิบกว่าปี

  พอลเจ้านายของหล่อนเป็นชาวฝรั่งเศสแท้ที่อายุล่วงเข้าวัย เลขสี่แล้วแต่ยังดูดีทุกกระเบียด ที่สำคัญเสน่ห์แบบหนุ่มใหญ่ของเขายิ่งขับให้เขาดูดีและน่าดึงดูดยิ่งขึ้นไปอีก จึงไม่แปลกอะไรที่สาวน้อยสาวใหญ่จะหลงเสน่ห์เขาได้โดยง่ายแม้ว่าเขาจะเป็นพ่อหม้ายที่มีลูกโตถึงขั้นเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม และเขาเองก็ไม่เคยทำให้ใครต่อใครผิดหวัง เขามักมีน้ำใจกับบรรดาสาว ๆ ที่เข้ามาติดพันเขาเสมอ แต่เขาเองก็มีกฎก่อนที่จะเริ่มผูกสัมพันธ์กับพวกหล่อนอยู่เหมือนกันคือ การคบหากับเขาจะเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายที่ต่างฝ่ายต่างพอใจกันทั้งสองฝ่ายเท่านั้น และแม้ว่าเขาจะตั้งกฎเช่นนี้ขึ้นมา บรรดาผู้หญิงต่างก็ยอมเพียงเพื่อที่จะได้มีสัมพันธ์รักกับเขาสักครั้ง สินีที่เป็นเลขาของเขามานานนั้นเข้าใจดี เพราะต้องคอยจัดระเบียบผู้หญิงของเจ้านายบ่อยๆ

  มีหลายครั้งหล่อนนึกถอดใจ แต่การที่ต้องทำงานร่วมกัน พบปะพูดคุยเห็นหน้ากันทุกวัน ความรู้สึกของหล่อนจึงมีแต่เพิ่มพูนมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งหล่อนตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง ด้วยหล่อนคิดว่าตนเองไม่มีอะไรที่จะต้องมาเสียอีกแล้ว เพราะหล่อนเสียมันไปตั้งแต่รักครั้งแรกในวัยเรียนไปแล้ว ดังนั้นสถานะของหล่อนกับเขาจึงเพิ่มขึ้นมาอีกสถานะหนึ่งซึ่งเขาเรียกมันว่าคู่ขา

  หล่อนอาศัยความใกล้ชิดและใช้เสน่ห์สาวที่หล่อนมั่นใจเต็มเปี่ยมเพื่อยั่วยวนเขา ซึ่งตัวพอลเองก็เข้าใจความหมายที่หล่อนต้องการสื่อได้เป็นอย่างดี ในเมื่อฝ่ายหญิงเสนอเขาจะไม่สนองได้อย่างไร แต่กระนั้นเขาก็ย้ำกับหล่อนเพื่อความมั่นใจถึงข้อตกลงต่าง ๆ ซึ่งหล่อนเองก็ยอมรับมันทุกประการ และสุดท้ายแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนคู่ควงหรือคู่นอนบ่อยแค่ไหน แต่หล่อนก็เป็นคนที่รู้ใจและถูกใจเขาที่สุดเสมอ

  สินีและพอลดำรงสถาะเจ้านายกับเลขาพ่วงด้วยคู่ขามาเกือบๆ สองปี นับได้ว่านานกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่พอลควงอย่างมากสุดก็แค่สามเดือน สิ่งนี้ทำให้หล่อนวางใจและพอใจกับความสัมพันธ์เช่นนี้ของเขา หล่อนพยายามทำตัวเองให้เป็นผู้หญิงในลักษณะที่เขาชอบโดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่หล่อนจะใช้ผูกกับเขาได้ แม้ว่าหล่อนไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่ก็ไม่เจนจัดนัก แต่เพื่อเขาจึงต้องหัดที่จะใช้เสน่ห์แห่งเรือนกายให้เป็นประโยชน์ หล่อนเรียนรู้เทคนิคและวิธีการ รวมถึงการดูแลตัวเองอย่างดีที่จะรองรับอารมณ์ร้อนแรงกับเขา จนทำให้หล่อนกลายเป็นสาวร้อนแรงไปโดยปริยาย แม้กระนั้นแล้วสุดท้ายที่หล่อนทุ่มเทไปทั้งหมดกลับสูญเปล่าเพียงเพราะเขาดันไปไปหลงเด็กสาวรุ่นลูกและจริงจังถึงขั้นตัดสัมพันธ์กับผู้หญิงทุกคนรวมถึงตัวหล่อนเอง ด้วยเหตุนี้เองหล่อนจึงต้องมานั่งดื่มปลอบใจตัวเองอยู่อย่างนี้

  “ขอวิสกี้หนึ่งแก้ว”

  ขณะที่นั่งลำลึกถึงความหลังอยู่นั้น เก้าอี้ด้านของสินีก็ถูกเลื่อนออกพร้อมกับร่างสูงของใครบางคนที่นั่งลงมาแล้วสั่งเครื่องดื่มที่ตนต้องการ

  สินีไม่ได้ใส่ใจนักเพียงแค่เหลือบตามองเล็กน้อย แต่พอเห็นใบหน้าด้านข้างที่ดูคุ้นๆ คิ้วของหล่อนก็ขมวดเป็นปมขึ้นมาทันที แม้หล่อนจะดื่มไปมากแต่ก็ยังไม่ได้เมาจนถึงขนาดจำไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะนั่งลงด้านข้างนั้นเป็นคนเดียวกับที่หล่อนเคยเห็นว่าเต้นรำกับยัยเด็กสาวที่เจ้านายของหล่อนกำลังหลงรักหัวปักหัวปำ ดังนั้นเองสินีจึงจับตา มองคนด้านข้างอย่างเงียบๆ

  หลังจากที่ถูกปฏิเสธจากรุ่นน้องที่เขาหมายปอง ตอนแรกพชรคิดว่าเขาจะทำใจได้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย ความรู้สึกแรกในตอนที่ถูกปฏิเสธด้วยการที่เธอบอกว่าคิดกับเขาแค่พี่ชาย เขาเพียงรู้สึกถึงความชาหนึบในหัวใจ และคิดว่าการอกหักครั้งนี้มันไม่สาหัสเท่าไหร่ แต่เมื่ออาการชานั้นจางหายไปความเจ็บปวดกลับเข้ามาแทนที่ เขาไม่สามารถทำใจให้ลืมขวัญข้าวรุ่นน้องที่เขาอุตส่าห์ค่อย ๆ สานสัมพันธ์สร้างความสนิทสนมได้ คราแรกเขายังคิดว่าเขาพอมีความหวัง จากสถานะพี่ชายอาจจะเลื่อนขึ้นเป็นสถานะอื่นได้ แต่ในวันนี้ที่เขาพบเจอกับหล่อนโดยบังเอิญ ความจริงที่ประจักษ์เหมือนหมัดน็อกเข้าเต็ม ๆ รุ่นน้องที่หมายตาปฏิเสธเขาแต่หันไปเลือกผู้ชายที่แก่คราวพ่อ และที่สำคัญชายคนนั้นยังเป็นบิดาของเพื่อนสนิทของหล่อน ความรู้สึกผิดหวังและพ่ายแพ้ทำให้เขาตัดสินใจใช้แอลกอฮอล์เพื่อบำบัดอาการอกหักเจียนตายของเขาในขณะนี้ อย่างน้อยฤทธิ์ของมันก็ช่วยให้เขาลืมได้ในขณะหนึ่ง

  “น้องขอเหล้าเพิ่มอีกแก้ว”

  พชรสั่งบริกรหลังเคาน์เตอร์ทันทีหลังจากที่เขากระดกเครื่องดื่มในมือแก้วแรกหมดในรวดเดียว เมื่อแก้วที่สองถูกยื่นให้เขาก็กรอกมันเข้าปากรวดเดียวอีกเหมือนเดิม จนกระทั่งแก้วที่สามและสี่ตามมา

  เขาดื่มเหล้าพรวดๆ อย่างกับดื่มน้ำโดยไม่สนใจว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลา เขาเพียงแค่อยากลืมเรื่องความผิดหวังจากรุ่นน้องสาวเท่านั้น

  สินีที่เห็นท่าทางของเด็กหนุ่มด้านข้าง หัวสมองอันชาญฉลาดของหล่อนเดาได้เลยว่าคงไม่พ้นเรื่องอกหัก หล่อนคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของหล่อน แต่ความรู้สึกลึกๆ บอกว่าอาการของเด็กหนุ่มตรงหน้าคงมีต้นเหตุเดียวกันกับหล่อน เมื่อคิดได้ดังนั้นความเห็นใจจึงแทรกเข้ามา หล่อนกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้งแล้วหันกลับไปนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองต่อไป ดวงตาคมเฉี่ยวของหล่อนจ้องมองเด็กหนุ่มข้างกายเป็นระยะ เห็นว่าอีกฝ่ายก็ซดเหล้าไม่ขาดเช่นกัน

  “อ่อนหัดชะมัด”

  เสียงหวานด้านข้างที่ดูเหมือนเอ่ยขึ้นลอยๆ ทำให้พชรหันกลับไปมอง สองสายตาจึงประสานกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่เขากลับรู้สึกว่าภายในดวงตาสีดำมืดมิดของหล่อนมีบางสิ่งที่ดึงดูดใจเขา ยามที่ดวงตาดำขลับตวัดมามองเขา เขาเห็นประกายเศร้าอย่างลึกล้ำอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่มันจะจางหายไปภายใต้สายตาที่ถูกปรับให้เรียบเฉยกับท่าทีหยิ่งๆ ของหล่อน พชรเลิกคิ้วมองหล่อนครู่หนึ่งก่อนที่จะหันกลับไปสนใจดื่มต่อคนเดียว

  ไม่รู้เช่นกันว่าอะไรดลใจหล่อน ขณะที่หล่อนสังเกตเด็กหนุ่มด้านข้างเงียบๆ ในหัวของหล่อนพลันผุดแผนการณ์บางอย่าง นั่นทำให้หล่อนเอ่ยปากเช่นนั้นออกไป ชั่วขณะที่เขาตวัดสายตาหันมามอง และดวงตาของทั้งคู่ประสานกันนั้น หล่อนรู้สึกเหมือนมีประกายไฟบางอย่างที่แล่นปราบไปทั่วร่าง ก่อนที่มันจะจางให้ไปในเวลาอันรวดเร็ว และนั่นทำให้หล่อนเผลอเผยความรู้สึกที่ซ่อนลึกออกมา หล่อนปัดมันทิ้งไปแล้วหันมาใส่ใจกับแผนการณ์ในหัว ไม่ลองก็คงจะไม่รู้ และบุคคลที่จะทำให้แผนการณ์ของหล่อนสำเร็จลุล่วงก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว ฉะนั้นหล่อนจะพลาดโอกาสงามๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร

  “กะอีแค่ผู้หญิงคนเดียวถึงกับต้องเมาหัวราน้ำ” สินีจงใจเอ่ยลอยๆ อีกครั้ง พชรเมื่อได้ยินดังนั้นก็หันกลับมามองสาวสวยด้านข้าง

  “นายคิดว่าแฟนนายจะทนอยู่กับคนแก่คราวพ่อได้สักกี่น้ำ” คิ้วเข้มขมวดมุ่น หล่อนจงใจพูดกับเขาแน่ๆ เพราะรอบข้างไม่มีใครอื่นอยู่อีก เขารู้สึกแปลกใจที่หล่อนเหมือนจะรู้เรื่องของเขา แต่เขาก็ไม่สนใจหันกลับไปซดเหล้าเข้าปากตามเดิม

  “น่าสมเพช” เสียงหวานด้านข้างยังคงเอ่ยขึ้นอีก

  “นั่นมันเรื่องของผม” เขาชักจะไม่ชอบใจผู้หญิงด้านข้างขึ้นมาเสียแล้ว เขาปรายสายตาไปมองหล่อนอีกครั้ง ซึ่งหล่อนเองก็จับจ้องมาที่เขา ท่าทางเชิดๆ ของหล่อนนั้นดูขัดตาเขาเป็นอย่างมาก

  “แค่นี้นายก็ยอมแพ้เสียแล้ว” หล่อนยังเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับส่งสายตาเย้ยหยันมายังเขาโดยตรง

  เส้นอารมณ์ของพชรขาดผึง เขายกแก้วในมือขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแล้วกระแทกมันลงบนโต๊ะโดยแรง ผู้หญิงคนนี้นี่ยังไงกัน หล่อนต้องการอะไรจากเขากันแน่ ดังนั้นสายตากร้าวจึงถูกส่งตรงไปที่สินีทันที

  “คุณต้องการอะไร”

  “เปล่า ฉันแค่สงสารนาย” สินีไหวไหล่แล้วเอ่ยออกไป

  “ถ้าอย่างนั้นมันก็เรื่องของผมไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ” พชรเอ่ยแล้วกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้ง แม้เขาจะรักขวัญข้าวแต่ในเมื่อผู้หญิงไม่มีใจแล้วจะให้เขาทำอย่างไร

  สีนีเห็นท่าทางไม่แยแสของเด็กหนุ่มก็กระดกเหล้าเข้าปากตัวเองบ้าง หล่อนรู้สึกขัดใจเล็กน้อยที่คนตรงหน้าไม่เต้นไปตามเธอ

  “ถ้าเป็นฉันฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ หรอกนะ เด็กมหาลัยสมัยนี้ใครจะยอมคบกับคนแก่คราวพ่อถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน” คำพูดของหล่อนทำให้พชรขมวดคิ้วอีกครั้ง

  “ข้าวไม่ใช่คนอย่างนั้น” เขาแก้ต่างให้รุ่นน้องสาวทันที แต่อีกใจหนึ่งกลับเริ่มไขว้เขว

  “เธอจะไปรู้ได้ยังไง แค่นี้เธอก็ถอดใจเสียแล้ว ไม่แน่ว่าถ้าเธอยังไม่ยอมแพ้ เด็กนั่นอาจจะหันมามองนาย หรือไม่ก็อาจจะคบนายซ้อนกับผู้ชายคนนั้นก็ได้” สีนีพยายามชี้นำ

  แม้ใจใจอยากจะปฏิเสธแต่พชรก็อดยอมรับไม่ได้ว่าคำพูดของหญิงสาวทำให้เขาเริ่มมีความหวัง เขาไม่รู้ว่าทำไมขวัญข้าวถึงตัดสินใจคบกับบิดาของเพื่อน อาจจะมีปัญหาเรื่องเงินอย่างที่หล่อนว่า เขาเริ่มคิดไปว่าแล้วถ้าเขาไม่ถอดใจจากหล่อนล่ะ วันหนึ่งเขาจะมีความหวังไหม หล่อนกับชายแก่คราวพ่อจะไปกันยืดไหม คิ้วเข้าขมวดมุ่นอีกครั้ง วันนี้เขาดื่มไปมากจริงๆ จนเริ่มมึนหัวขึ้นมาแล้ว เขาสะบัดศีรษะไปมาสองสามทีก่อนที่จะยกแก้วขึ้นดื่มต่อไป วันนี้เขาเพียงแค่ต้องการเมา ต้องการทำใจ แต่หญิงสาวด้านข้างกลับพูดจาเหมือนจุดประกายความหวังอันริบหรี่ให้เขาอีกครั้ง แต่ตอนนี้หัวเขากลับหนักอึ้งด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จนคิดอะไรไม่ออก เขาไม่สนแล้วว่าหล่อนจะรู้เรื่องของเขาได้อย่างไร

  ในเมื่อเด็กหนุ่มข้างกายเงียบสีนีก็ทำเพียงไหวไหล่ หล่อนเองก็ไม่ได้คิดหวังผลหรือฝากความหวังอะไรไว้กับเขามากมาย หล่อนจึงหันไปสนใจกับเครื่องดื่มในมือของหล่อนอีกครั้ง เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้หูเบาแบบที่หล่อนคิด แต่หล่อนเองก็ไม่รู้ว่าทำไม สายตาของหล่อนยังคงจับจ้องที่คนด้านข้างเป็นระยะๆ

  “ขอโทษครับผับปิดแล้วครับ” บริกรเอ่ยเตือนลูกค้าชายหญิงที่เหลือเพียงสองคนอยู่หน้าเคาน์เตอร์

  ในเมื่อผับปิดแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องรั้งอยู่ต่อไป สินีจ่ายเงินแล้วลุกขึ้น เด็กหนุ่มด้านข้างก็เช่นกัน แต่ทันใดนั้นร่างสูงของเขาก็ฟุบลงไป

  “นี่นาย” หล่อนสะกิดเรียกแต่ก็ไร้การตอบสนอง เขาคงจะเมามาก ก่อนหน้านี้เขากระดกเหล้าเข้าปากไม่มีหยุดแต่ไม่มีท่าทางที่ดูแล้วเหมือนคนเมาเลย

  “นี่นาย” หล่อนลองเรียกเขาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมามองเขานิดหน่อย เขาพยามลุกขึ้นแต่ก็ฟุบกลับลงไปเหมือนเดิม

  หล่อนและพนักงานของร้านจ้องหน้ากัน พนักงานส่งสายตาขอความเห็นใจให้หล่อน

  “พี่ครับช่วยผมหน่อยนะครับ” เขาเห็นว่าท่าทางของทั้งคู่แม้จะดูห่างเหินไปบ้างแต่คงจะเป็นคนรู้จักกันเลยขอร้องหล่อน

  “นี่นายไหวมั้ย” ก็เห็นอยู่ว่าท่าทางของเขาไม่ไหวแน่ๆ แต่ก็ลองเรียกดู

  เฮ้อ!!!

  สินีถอนหายใจ จ้องพนักงานที่ยืนส่งสายตาละห้อยกับร่างสูงของชายหนุ่มสลับกันไปมา

  “ช่วยพี่พาเขาไปที่รถก็แล้วกัน” ในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจ

  วันนี้หล่อนเองก็ดื่มหนักเหมือนกันแต่โชคดีที่หล่อนเป็นคนคอแข็งมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าไม่อย่างนั้นสภาพของหล่อนคงไม่ต่างจากชายหนุ่มตรงหน้า

  เมื่อขึ้นรถมาแล้วหล่อนมองดูคนเมาอย่างพินิจอีกครั้ง ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี สุดท้ายหล่อนจึงพาเขาไปที่คอนโดของหล่อน

You may also like

Download APP for Free Reading

novelcat google down novelcat ios down