ตรวนรักสามชาติ' เรื่องราวความรักสามชาติภพ รักหนักแน่นของจิตรกรหนุ่มที่ชื่อ เตโช คุณชายเชื้อเจ้าจากทางเหนือ กับ แม่กระดังงา ดาราแห่งหอนางโลมเขาและหล่อนรักกัน แต่โชคชะตากลับฉีกกระชากซี่โครงอีกซี่ของเตโชออกไปจากกาย เขาจึงเลือกที่จะสละตัวเองเป็นผู้รับใช้ซาตาน ล่อลวงวิญญาณมนุษย์ มีชีวิตอมตะรอหญิงที่รักที่ถูกพรากกลับมาเกิดใหม่ เกิดเป็นห่วงโซ่ตรวนแห่งกรรมคล้องเรียงกันถึงสามภพสามชาติไม่ว่าหล่อนจะเป็นแม่กระดังงา นางโลมผู้เลอโฉม จะเป็นแม่ซ่อนกลิ่น เมียสามแสนอาภัพของเจ้าสัวคนจีน หรือจะเป็นมัทนา นางแบบสาวผู้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความแค้น เตโชก็ไม่เคยละความพยายามสักครั้งที่จะทำให้หล่อนกลับมาตกหลุมรักเขาใหม่ได้อีกครั้ง!
สรวิศหยิบไฟแช็กขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง จุดไฟใส่ปลายบุหรี่ที่คาบอยู่ในปากอย่างประหม่า เขาเกลียดนักที่เวลาประหม่าทีไร จะต้องอัดควันพวกนี้เข้าไปในปอดให้มันผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องพึ่งมันในเวลานี้
ชายหนุ่มแหงนมองไปที่ท้องฟ้าสีเทายามเย็นที่เต็มไปด้วยเมฆหมอก ช่างหดหู่เหมือนอารมณ์ของเขาตอนนี้เสียนี่กระไร ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่ดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง มือหนึ่งคีบบุหรี่ อีกมือหนึ่งหยิบโทรศัพท์มาเปิดหน้าจอดูเวลา…ใกล้เวลานัดแล้ว
ทันทีที่ปิดไฟหน้าจอโทรศัพท์ กระจกหน้าจอก็สะท้อนให้เห็นภาพของชายหนุ่มวัยสามสิบกลาง ๆ มีเค้าของความหล่อเหลา ทว่าร่วงโรยไปด้วยริ้วรอยก่อนวัยและความหมองคล้ำจากเหล้าบุหรี่ บวกกับความเครียดจากหนี้พนัน
สรวิศนัดอีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อทำให้เรื่องต่าง ๆ ในชีวิตบัดซบนี่จบลงเสียที!
“สวัสดีครับ คุณสรวิศ”
ชายหนุ่มหันไปทางเสียงเรียก พบกับสุภาพบุรุษร่างสูงในชุดสูทแบรนด์เนม หน้าตาหล่อเหลาราวกับภาพวาด ราวกับประติมากรรมสลักเสลา จมูกปากคางรับต้องกันหมด ผิวพรรณผ่องใส ดูเอี่ยมลออมากกว่าจะเป็นมนุษย์จริง ๆ ฝ่ายนั้นปรากฏตัวขึ้นโดยปราศจากเสียงฝีเท้า ราวกับหายตัวมา
“มาตรงเวลาดีนี่ คุณเตโช”
“ทีแรกผมก็ประหลาดใจนะครับ ว่าทำไมปรเมศ ผู้ช่วยของผมถึงนัดให้ผมเจอคุณที่นี่ แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว” เตโชปรายตาไปทางบุหรี่ที่ปลายนิ้วของอีกฝ่าย
สรวิศยักไหล่และสูบควันเข้าไปในปอดต่อ หมอนี่จะสำรวยสำอางมาจากไหนเขาไม่สน เขาไม่อยากมามีพิธีรีตองอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้ทุกอย่างจบลงโดยเร็วที่สุด
“จะทำอะไรก็รีบทำ ผมไม่มีเวลามากนักหรอกนะ”
สรวิศพูดอย่างนึกรำคาญ
“ก่อนจะลงมือซื้อขาย ผมอยากจะทบทวนข้อตกลงของเราให้ชัดเจนอีกครั้ง ถ้าคุณไม่ว่า”
สรวิศยักไหล่ เตโชจึงพูดต่อ
“คุณยินดีขายวิญญาณให้ทางเราเพื่อให้คุณพ้นจากสภาพตกอับ มีหนี้สินล้นพ้น แล้วกลับมามีชื่อเสียงในวงการบันเทิงได้อีกครั้งใช่ไหมครับ”
สรวิศพยักหน้า นักร้องบอยแบนด์วัยรุ่นและพระเอกดาวรุ่งในวันวาน ใครจะคิดว่าจะได้มาอยู่ในสภาพนี้เพราะประมาทในแสงสีสวยงามในวงการ จากคนที่เคยมีทั้งชื่อเสียงเงินทอง ผู้หญิงสวย ๆ รอบกาย กลับต้องมีสภาพเกือบจะเป็นหมาข้างถนนเพราะขยันสร้างข่าวฉาวไม่เว้นแต่ละวัน อีกทั้งวินัยการทำงานยังแย่จนไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย วันหนึ่งงานหายรายได้หดจึงไปพึ่งการพนัน แรก ๆ ก็ได้อยู่หรอก แต่หลัง ๆ มีแต่เสีย ทำให้ตอนนี้อดีตดาราหนุ่มมีหนี้หลักล้าน แต่มีเงินติดก้นบัญชีไม่กี่ร้อย อีกทั้งยังไม่มีงานเข้ามาเลย
“เช่นนั้นเชิญจับมือทำสัญญา”
ความมืดค่อย ๆ โรยตัวลง ฟ้าแลบแวบหนึ่งเป็นสัญญาณว่าฝนกำลังจะตกในไม่ช้า สรวิศทิ้งบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดมวนลงบนพื้น เหยียบปลายบุหรี่ที่ติดไฟด้วยปลายเท้า จากนั้นก็ยื่นมือขวาตนเองมาจับกระชับกับมือขวาของอีกฝ่าย
ขายวิญญาณให้ปิศาจ…นึกว่าจะมีแต่ในตำนาน นึกไม่ถึงว่าในยุคห้าจีแบบนี้จะยังมีเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ด้วย แล้วปิศาจก็มาในรูปแบบที่เหมือนมนุษย์ทุกประการ แฝงตัวปะปนกับผู้คนในสังคม สรวิศรู้จักเตโชได้ก็เพราะผู้ช่วยของเตโชติดต่อเขาไปร้องเพลงในงานโอเพ่นเฮาส์แกลเลอรีของฝ่ายนั้นเมื่อไม่นานมานี้ และต่อมาฝ่ายนั้นก็เข้าหาเขาพร้อมยื่นข้อเสนอยั่วใจนี้ให้
ทุกคนในสังคมรู้จักเตโชในฐานะศิลปินวาดภาพผู้ลึกลับ ไม่มีใครคิดเลยว่าศิลปินผู้นี้จะไม่ใช่คนธรรมดา!
แสงประหลาดเลื้อยเกี่ยวพันข้อมือของทั้งสองคน จากนั้นก็หายไป ทิ้งไว้เพียงสัญลักษณ์รูปงูที่ฝ่ามือของฝ่ายที่ขอทำสัญญาซื้อขาย ปรากฏขึ้นไม่กี่วินาทีก็จางหาย ทว่ายังคงเห็นได้ในสายตาของเจ้าของมือและปิศาจผู้ทำสัญญา
“ชีวิตคุณจะมีชื่อเสียง เงินทอง และผู้หญิงมากมายรายล้อมอีกครั้ง” เตโชให้สัญญา “วันสองวันนี้เตรียมรับโทรศัพท์ติดต่องานได้เลยครับ อย่างน้อยเร็ว ๆ นี้ก็จะมีงานโฆษณาราคาหกหลักมาจ้างคุณเป็นพรีเซนเตอร์ หลังจากงานโฆษณาตัวนี้ก็จะมีผู้กำกับหนังมาเสนอในภาพยนตร์ให้คุณอีกครั้ง แล้วคุณก็จะได้ใช้หนี้บางส่วนก่อน ไม่ต้องกลัวใครมาขู่ฆ่าทวงหนี้ ขอให้คุณมีความสุขกับชีวิตที่เหลือ”
สรวิศรู้สึกว่าใบหน้าหมองคล้ำของเขาเริ่มสว่างใสขึ้นเมื่อได้ยินคำสัญญานั้น เขารู้สึกอิ่มเอิบเมื่อเห็นภาพตัวเองกำลังจะได้คัมแบ็คสักที พวกนักร้องนักดนตรีมีชื่อเสียงที่เคยมีข่าวลือว่าขายวิญญาณให้ปิศาจ ที่ผ่านมาเขาเคยคิดว่าพวกนี้ไร้สาระ ปั้นน้ำเป็นตัว แต่วันนี้เขารู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าแต่ก่อนรู้สักนิดว่าเรื่องพวกนี้มีจริง สักหกปีที่แล้ว…ช่วงขาลงของชายหนุ่ม เขาคงจะรีบค้นหาทันทีว่าจะมีใครรับซื้อวิญญาณเขาได้บ้าง ไม่รอจนถึงอายุสามสิบห้าหรอก
“แล้วเมื่อผมสิ้นอายุขัยล่ะ ถึงวันนั้นผมจะเป็นยังไง” ชายหนุ่มถาม
“วิญญาณของคุณถูกตีตราแล้ว ถึงวันนั้น วิญญาณของคุณจะต้องมาอยู่กับฝ่ายเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อยู่ในภพของเรา รอคอยวันพิพากษามาถึง แล้ววันนั้นวิญญาณของคุณจะเป็นกำลังของฝ่ายเรา ช่วยเราสู้รบกับฝ่ายสว่าง”
สรวิศไม่แน่ใจว่าตนเองเข้าใจที่อีกฝ่ายพูดมากน้อยแค่ไหน ชายหนุ่มไม่ใช่คนมองการณ์ไกลมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ขอให้วันนี้เอาตัวรอดได้ จะไปตายเอาดาบหน้าเขาก็ไม่ซีเรียส
“ยินดีที่ได้ทำการค้ากับคุณนะครับ คุณสรวิศ”
ฟ้าแลบขึ้นเป็นครั้งที่สองก่อนม่านความมืดจะโอบล้อมบรรยากาศ เตโชหายวับไปราวกับไม่เคยยืนอยู่ตรงหน้าของ
สรวิศเลย
สรวิศยืนกระหยิ่มยิ้มย่องท่ามกลางเสียงคำรามของท้องฟ้า ชื่อเสียงของเขาจะกลับมาดังก้องอีกครั้ง เขาจะกลับมามั่งมีอีกครั้ง และเขาไม่สนว่าราคาที่เพิ่งจ่ายไปเพื่อแลกกับสิ่งนั้นแพงลิบแค่ไหน!